เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐร้อนระอุ ไบเดนโอดโอยขอคะแนนจากคนอเมริกัน ฟาดใส่คู่แข่งว่า ถ้า”รีพลับริกัน” ชนะเลือกตั้ง อเมริกาจะอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงของการไร้ซึ่งประชาธิปไตย ขณะที่ทรัมป์โพสต์รัวๆให้คนอเมริกันออกมาใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด และให้ช่วยกันระวังเดโมแครตตุกติก
รีพับลิกันคว้าชัยชนะนัดแรกในเกาะกวมสหรัฐฯ เป็นลางร้ายของเดโมแครตที่ใจตุ้มใจต่อมเพราะโพลคะแนนนิยมของผู้นำปธน.ไบเดนและโพลความนิยมพรรคลดฮวบฮาบ ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ก้าวสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอัตราเงินเฟ้อยังสูง แม้ว่าตัวเลขผู้ว่างงานจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ ๙ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและทาซซ์ รายงานว่า เกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิกเลือกพรรครีพับลิกัน เข้าสู่สภาคองเกรสเป็นครั้งแรกในรอบ ๓๐ ปี ทำเอาเดโมแครตใจคอไม่ดี
การเลือกตั้งกลางเทอมในปีนี้ สองพรรคใหญ่ต้องขับเคี่ยวชิงชัย ๓๕ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่งในวุฒิสภาสหรัฐฯ และ ๔๓๕ ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร นอกเหนือจากตำแหน่งระดับรัฐและระดับท้องถิ่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน ๓๖ รัฐและสามเขตแดนจะเลือกผู้ว่าการของตน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดของตำแหน่งที่ไม่ใช่ของรัฐบาลกลางในการลงคะแนนเสียง
ปัจจุบัน พรรคเดโมแครตควบคุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ๘ ที่นั่ง ขณะที่วุฒิสภาถูกแบ่ง ๕๐-๕๐ โดยมีรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นตัวแทนของการลงคะแนนเสียงแบบผูกขาดในบทบาทของเธอ อยู่ในตำแหน่งประธานวุฒิสภา
พรรครีพับลิกันดูเหมือนจะอยู่ในตำแหน่งที่ดี ที่จะยึดสภาในขณะที่วุฒิสภายังคงไม่ถูกคาดหวัง ตามผลสำรวจล่าสุด
การแข่งขันปี ๒๐๒๒ นี้ คาดว่าจะเป็นช่วงกลางเทอมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดยเงินลงทุนกว่า ๑๖,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สำหรับการแข่งขัน ซึ่งรวมถึง “การใช้จ่ายภายนอก” ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ๒.๑ พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Open Secrets group watchdog นอกจากนี้ยังรวมถึง “เงินมืด” เกือบ ๓๐๐ ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินทุนจากกลุ่มที่ไม่เปิดเผยตัวตนของผู้บริจาคที่มีทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน
ผลสำรวจของ Gallup ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังพบอีกด้วยว่า ชาวอเมริกันมากกว่า ๔๐.๕ ล้านคนลงคะแนนเสียงก่อนกำหนดในการเลือกตั้งกลางภาค ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยโครงการการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ ประมาณสี่ในสิบของคนอเมริกัน ๔๑% โหวตหรือวางแผนที่จะลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง
พรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะลงคะแนนเสียงด้วยตนเองในวันเลือกตั้งมากกว่าพรรคเดโมแครต ในขณะที่ผู้หญิง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุมากกว่า ๖๕ ปี และผู้คนที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันตกของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลงคะแนนเสียงตั้งแต่เนิ่นๆ
ภาพพจน์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตหลายที่เป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งนักเคลื่อนไหวบางคนกลัวว่าอาจจะถูกปลดออกและทำให้มีโอกาสแพ้คู่แข่งจากรีพับลิกัน
ริอา ทอมสัน(Ria Thompson-Washington)จากวอชิงตัน ผู้อำนวยการ Redress Movement Digital Organizing กล่าวว่า เธอกังวลว่าความไม่แยแสจะชี้ขาดในการแข่งขันที่สำคัญครั้งนี้
ในแง่ของปัญหา ความหวาดกลัวทางเศรษฐกิจได้ครอบงำฤดูกาลหาเสียง โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ ๔๐ ปี ถึงแม้ว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ ๕๐ ปี ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องน่ายินดีว่าเศรษฐกิจยังคงขับเคลื่อนไปได้
เกรแลน แฮกเลอร์(Graylan Hagler) ผู้อำนวยการ Faith Strategies กลุ่มผู้สนับสนุนทางสังคมและการเมืองบอกกับ Sputnik ว่าโอกาสสำหรับพรรคเดโมแครตดูมืดมนเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับประเด็นอื่น ๆ เช่นสิทธิพลเมือง และประชาธิปไตย
Kerra Bolton อดีตผู้จัดคณะกรรมการประชาธิปไตยแห่งชาติในนอร์ธแคโรไลนา คิดว่าประเด็นสำคัญๆ เช่น การทำแท้งจะนำไปสู่การเพิ่มจำนวนที่นั่งของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้ง แต่ความจริงอาจไม่เป็นตามนั้น
โบลตันกล่าวว่า“การทำแท้งควรจะเป็นปัญหาใหญ่ในการช่วยผู้หญิงผิวขาว มีผู้หญิงทั้งหมดเหล่านี้ที่บอกว่าพวกเขาจะเดินตาม Roe v Wade แต่พวกเขาแทบจะไม่ทำอะไรเลยที่จะบ่งบอกว่าสนับสนุนเดโมแครต ”
มีข้อกังวลบางประการเกี่ยวกับปัญหาการนับบัตรลงคะแนน ความมั่นคงในการเลือกตั้ง ข้อมูลที่ผิดพลาด การหลอกลวงผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนการลงคะแนนเสียง และความกังวลเกี่ยวกับเครื่องนับคะแนนอัตโนมัตเสีย เหมือนครั้งเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งล่าสุดนี้ก็ปรากฏปัญหาหลายเมืองแล้ว
เอฟบีไอในทวีตเมื่อวันจันทร์เตือนว่า ผู้ใดจงใจหลอกลวงผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเพื่อที่พวกเขาจะไม่ปรากฏตัวต่อการเลือกตั้งเป็นอาชญากรรม รัฐบาลกลางเรียกว่าการปราบปรามผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีโทษอาญา
ตามรายงานของ RealClearPolitics (RCP) พรรครีพับลิกันได้รับการสนับสนุนให้ชนะที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา โดยมีจำนวน ๒๒๗ ที่นั่ง ซึ่งสูงกว่า ๒๑๘ ที่นั่งที่จำเป็นต่อการควบคุมสภาล่าง ขณะที่การแข่งขัน ๓๔ รายการของวุฒิสภายังคงจัดอยู่ในประเภทพลิกกลับได้ตลอด ที่นั่งที่แข่งขันกันอย่างเผ็ดร้อนที่สุดในวุฒิสภา ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย เนวาดา นิวแฮมป์เชียร์ เพนซิลเวเนีย วอชิงตัน และวิสคอนซิน