ผู้กองเบนซ์ โดนจวกเละ หลังพูดคนเจอวิกฤตโควิดเลือกอยู่บ้านเฉยๆ เป็นเพราะโรค หรือ ขี้เกียจ

โดย คลิปที่ปล่อยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 ผู้กองเบนซ์พูดถึงกรณีที่ในจีนมีคนเปิดผับออนไลน์ ทุกคนสามารถเมาหัวทิ่มได้ และถือเป็นโอกาสในช่วงโควิด ในช่วงนี้มีโอกาสต่าง ๆ มากมาย แต่หลายคนกลับไปยึดติด คิดลบ ขี้เกียจ ฟุ้งซ่าน วัน ๆ เสพคอนเทนต์กระจอก เรียกหาความรับผิดชอบจากคนอื่น และกลับมาคิดว่าที่จะฉิบหายทุกวันนี้ “เป็นเพราะวิกฤตหรือเป็นเพราะวินัยของ_ึง”

โดย หลายคนมองว่าคลิปนี้ของผู้กองเบนซ์ กลายเป็นแรงบันดาลใจดี ๆ ให้คนออกมาหาโอกาสทำในช่วงวิกฤต บางคนพลิกวิกฤตเป็นโอกาส หาเวลาว่างจากการทำงาน หรือเวลาว่างในช่วงนี้ มาลองทำงานใหม่ ๆ แล้วขายออนไลน์

แทน

ทั้งนี้ ในโลกของทวิตเตอร์นั้น กลับมีคนที่มองว่าสิ่งที่ผู้กองเบนซ์สอน ไม่ต่างจากการซ้ำเติมคนที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว การบอกให้คนไปทำอาหารขาย ขายของออนไลน์ ขับไลน์แมน ก็ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันมีต้นทุนของมันอยู่แล้ว ทำอาหารขายก็ต้องมีฝีมือ ขายของออนไลน์ก็ต้องมีทุน หรือขับรถส่งอาหารก็ต้องมีมอเตอร์ไซค์ แต่จะทำ

อย่างไรถ้าคุณไม่มีทุนเลยสักบาท คนเป็นแสนต้องหยุดงาน จะให้ทุกคนไปขับไลน์แมนหมดหรือ ?

 

ทั้งนี้ ได้มีคนยกคำพูดของ J.K. Rowling นักเขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ออกมาบอกว่า การที่พวกไลฟ์โค้ชบอกว่าคนอื่นขี้เกียจ ขาดแรงกระตุ้นที่จะทำอะไรใหม่ ๆ ในช่วงที่เกิดวิกฤต ไม่ใช่การพยายามปลุกใจ แต่มันคือการประณามหยามเหยียดคนอื่น หากการ “ทำงานอย่างอื่น” สามารถรักษาความหดหู่ได้ คงไม่มีคนรวยหรือคนบ้างานคนไหนที่ฆ่าตัวตายหรอก

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปฏิกิริยาทั่วไปของมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งที่อันตรายและความยากลำบากอยู่แล้ว ปล่อยให้เราได้รู้สึกในสิ่งที่เรารู้สึก และยอมรับว่าเราเองก็มีเหตุผลที่จะรู้สึกอย่างนั้น ซึ่งมันเป็นเส้นทางที่ดีกว่าที่จะทำให้สภาพจิตใจของเรากลับมาดีขึ้นได้ ดีกว่ามานั่งโทษตัวเองว่าเราไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่จนเอาตัวรอดจากวิกฤตไม่ได้

หากคุณเป็นไลฟ์โค้ช ผู้ที่พยายามจะบอกคนอื่นว่าคนอื่นเป็นพวกขี้แพ้หากไม่รู้จักเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ สร้างแบรนด์ใหม่ ๆ ในขณะที่ต้องอยู่กับบ้านเฉย ๆ ขอให้หยุดเถอะ ทุกคนมีอุปสรรคของตัวเองในแบบที่คุณเองไม่มีวันเข้าใจ และบางครั้งการที่จะผ่านไปแต่ละวัน มันก็เหนื่อยสาหัสพออยู่แล้ว