หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ออกมาเรียกร้องวอชิงตันคงความเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังมีคำถามโผล่ขึ้นมาเกี่ยวกับแรงสนับสนุนของอเมริกาที่มีต่อยูเครน ตามหลังศึกเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่าพรรคใดจะเป็นฝ่ายควบคุมสภาคองเกรสสหรัฐฯ
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญ ทั้งจัดหาอาวุธและมอบแรงสนับสนุนทางการเงินแก่ยูเครนในการทำสงครามต้านทานการรุกรานของรัสเซีย เร่งเร้าบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงให้โหวตเลือกพรรคเดโมแครต ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
แต่หากสูญเสียเสียงข้างมากทั้งใน 2 สภา ไบเดนจะเหลือทางเดินไม่มากนักไม่ต่างจากเป็ดง่อย และก่อข้อสงสัยว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มกำลังต่อไปหรือไม่
“ผมเรียกร้องพวกคุุณให้คงความเป็นหนึ่งเดียวกันไม่เปลี่ยน ดังเช่นตอนนี้ จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เราทุกคนได้ยินคำพูดสำคัญๆ เหล่านั้นที่เราฝันมาตลอด จนกว่าเราจะได้ยินคำว่า ท้ายที่สุดก็สามารถกอบกู้สันติภาพคืนมาได้แล้ว” เซเลนสกี กล่าวปราศรัยที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ระหว่างรับเหรียญเสรีภาพของสหรัฐฯ
“ประชาธิปไตยไม่ควรหยุดหนทางในการมุ่งหน้าสู่ชัยชนะ เช่นเดียวกับสังคมประชาธิปไตยอื่น ๆ ยูเครนมีมุมมองในวิถีชีวิตและการเมืองต่างออกไป” เซเลนสกีกล่าว “แต่เมื่อรัสเซียตัดสินใจทำลายเสรีภาพของเราและกำจัดยูเครนออกจากพื้นผิวโลก เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันในทันทีและเราต้องสานต่อความสามัคคีนี้”
ทั้งนี้เซเลนสกีอาจจะเริ่มหวั่น ๆ ต่อท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อชาติตนเองเข้าแล้ว เพราะเจ้าตัวเตรียมหันหน้าขอเจรจากับรัสเซียอีกครั้ง หลังจากที่ประกาศกร้าวว่าไม่ยอมเจรจาเด็ดขาด แต่คงไม่มีทางเลือกมากนักในเวลานี้ โดยมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ส่งสัญญาณความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีจากก่อนหน้านี้ที่เขายืนยันว่าจะไม่มีการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
ทั้งนี้เซเลนสกีเรียกร้องให้นานาชาติกดดันให้รัสเซียกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหารือข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีได้ตั้งเงื่อนไขในการเจรจากับรัสเซีย ได้แก่ รัสเซียต้องคืนดินแดนทั้งหมดที่มีการยึดครองในขณะนี้ให้แก่ยูเครน และรัสเซียจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากการทำสงครามกับยูเครน รวมทั้งจะต้องมีการดำเนินคดีการก่ออาชญากรรมสงครามต่อรัสเซีย
เป็นที่น่าจับตาเช่นกันว่า การเปลี่ยนแปลงท่าทีดังกล่าวของเซเลนสกีมีขึ้น ขณะที่มีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ ซึ่งคาดว่าพรรครีพับลิกันจะประสบชัยชนะ ซึ่งหากพรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะตามที่มีการคาดการณ์ไว้ ก็จะส่งผลให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประสบความยากลำบากในการผลักดันกฎหมายช่วยเหลือยูเครนผ่านสภาคองเกรส