จากที่สื่อต่างประเทศรายงานถึง ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน เตือนว่า รัสเซียอาจโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมากขึ้นนั้น
ขณะที่กรุงเคียฟขอให้ประชาชนพิจารณาเดินทางออกจากเมืองหลวงที่ยังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนทำให้เผชิญกับปัญหาด้านพลังงานไฟฟ้า เขากล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียกำลังระดมสรรพกำลังเพื่อโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน โดยเฉพาะด้านพลังงานมากขึ้น
อีกทั้งยังระบุว่า ขณะนี้มีชาวยูเครนกว่า 4.5 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าใช้งานแล้ว ขณะที่นายเซอร์เก โควาเลนโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของยาสโน (YASNO) บริษัทผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่ของกรุงเคียฟ ระบุผ่านเฟซบุ๊คว่า
ยูเครนจะเผชิญกับปัญหาขาดดุลด้านพลังงานร้อยละ 32 โดยคำเตือนของเซเลนสกี้มีขึ้นหลังจากที่ นายวิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาขอให้ประชาชนพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ทำให้กรุงเคียฟเผชิญกับเหตุไฟดับ และขาดแคลนน้ำประปา
คลิทช์โก ยังระบุด้วยว่าชาวกรุงเคียฟควรตัดสินใจเดินทางไปอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวที่อาศัยอยู่นอกเมืองหลวงยูเครน ขณะที่นายยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียได้ทำลายระบบสายส่งไฟฟ้าเป็นระยะทางยาว 1.5 กิโลเมตร ทำให้เมืองเบอริสลาฟไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน
ด้าน นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ของกัมพูชาเผยว่า การประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่กรุงพนมเปญในสัปดาห์นี้จะมีเรื่องยูเครนเป็นวาระสำคัญ นอกเหนือจากประเด็นภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งเมื่อวันอังคารที่แล้ว
ฮุนเซนได้สนทนาออนไลน์กับเซเลนสกี้ ซึ่งทั้งคู่เห็นพ้องกันเรื่องผู้นำกัมพูชาจะไปเยือนยูเครนในเวลาที่เหมาะสม กัมพูชาจะส่งทีมกู้กับระเบิดไปช่วยยูเครน และจะแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตระหว่างกัน ผู้นำยูเครนยังได้ขอกล่าวปราศรัยผ่านวีดีโอลิงก์มายังการประชุมสุดยอด และย้ำเรื่องจะต้องการเป็นคู่เจรจาเฉพาะสาขา (Sectoral Dialogue Partner) ของอาเซียน ซึ่งเป็นขั้นแรกก่อนการเป็นคู่เจรจาเต็มตัวอย่างสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และรัสเซีย
นอกจากนี้สื่อต่างประเทศ ยังรายงานอีกว่า โอเอลกซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ว่า ยูเครนได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS จากสหรัฐฯ ชุดแรกแล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่กองกำลังเคียฟเป็นอย่างมาก ในขณะที่รัสเซียระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานทั่วยูเครน
เรซนิคอฟ เขียนบนเทเลแกรมระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS และ Aspide ถูกส่งมาถึงยูเครนแล้ว!” พร้อมกล่าวขอบคุณนอร์เวย์ สเปน และสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบ “อาวุธนี้จะช่วยเสริมความเข้มแข็งอย่างมากแก่กองทัพยูเครน และจะทำให้ท้องฟ้าของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น”
โดยเรซนิคอฟอ้างถึงระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นผิวสู่อากาศล้ำสมัย (NASAMS) ของสหรัฐฯ ระบบป้องกันภัยทางอากาศแอสไพด์ (Aspide) ของอิตาลี เพิ่มเติมจากอาวุธต่าง ๆ ที่เยอรมนีจัดหาให้ “เราจะเดินหน้าสอยร่วงเป้าหมายศัตรูที่โจมตีเรา ขอบคุณพันธมิตรของเรา นอร์เวย์ และสหรัฐฯ”
ด้านจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าสหรัฐฯ กำลังเร่งส่งมอบระบบ NASAMS ล้ำสมัยแก่ยูเครน หลังจากยูเครนถูกรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธโจมตีไม่หยุด