แฉลึกทหารรับจ้างตะวันตกมายูเครนนับหมื่น ล่าสุด Black wolf โดนรัสเซียเด็ดหัวคาแนวหน้าอื้อ ขณะของสหรัฐแพ้ยับ

0

จากกรณีการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้ดำเนินมาตลอด8เดือนแล้ว ทำให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฝ่ายยูเครนที่แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากชาติยุโรป แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับกองทัพรัสเซียได้

ทั้งนี้ Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความเผยแพร่ โดยระบุจากแหล่งที่มา ซึ่งเน้นย้ำถึงเรื่องยุทโธปกรณ์ที่ถูกส่งเข้าไปในยูเครนว่า

“ตั้งแต่ 24 ก.พ.2022 เป็นเวลากว่า 8 เดือน ที่รัฐบาลยูเครนนำพาพลเมืองเข้าสู่สภาวะสงคราม ยินยอมอนุญาตให้กองกำลังผสมต่างชาติตะวันตกใช้แผ่นดินยูเครน

โดยชาติตะวันตก ก็ไม่เคยปฏิเสธว่าส่งอาวุธไปทำสงครามกับรัสเซีย ตั้งศูนย์บัญชาการใหญ่ที่เรียกว่า SAG-U อยู่ที่เมืองวีสบาเดิน ประเทศเยอรมนี มีทหารจาก NATO และพันธมิตร 40 ชาติ ปฏิบัติงาน 300 นายในศูนย์นี้สั่งการไปยังทหารรับจ้างต่างชาติที่ยูเครนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

ที่ผ่านมาจึงพบรายงานทางสื่อตะวันตกเองบ่อยครั้งว่าทหารรับจ้างพลเมืองของชาติตะวันตกถูกกองทัพรัสเซียจับตัวได้จากแนวหน้าสู้รบออกมาประจานว่าไม่ใช่ทหารยูเครน และหลายพันรายกลายเป็นปุ๋ยอยู่ยูเครนตลอดไป

นอกจากบริษัททหารรับจ้าง Acadamy PMC สหรัฐ ที่รับเหมาจากกลาโหมชาติตนเองแล้ว ล่าสุดคือบริษัท ทหารรับจ้าง Black wolf โรมาเนีย ก็กลายเป็นปุ๋ยรวด 80 ราย ที่แนวหน้าเมือง Svatovo ใกล้สาธารณรัฐลูฮันสก์ รัสเซีย

จึงเป็นสิ่งยืนยันโดยพฤตินัยว่าคือสงครามระหว่างฝ่ายกลุ่ม NATO และพันธมิตรรวม 40 ชาติที่ส่งกำลังพลมาในรูปแบบทหารรับจ้างต่างชาติ จำนวนมากหลักหมื่นคนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลัง พร้อมกับส่งอาวุธจรวด , ปืนใหญ่ , รถถัง , รถหุ้มเกราะ , ยานยนต์ , ระบบต่อต้านอากาศยาน , โดรน ฯลฯ โดยส่งอาวุธมาอย่างเปิดเผยทางรถไฟเข้าสู่แนวหน้า ไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด

ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดว่าสงครามจะพัฒนาขยายพื้นที่สู้รบไปชาติอื่น หรือใช้อาวุธร้ายแรงขึ้นกว่านี้ ตราบเท่าที่ชาติ NATO ยังไม่ทุ่มกำลังกองทัพปริมาณมากขึ้นหลายแสนถึงล้านนาย หรืออาวุธร้ายแรงนิวเคลียร์ สงครามก็จะจำกัดวงแค่ยูเครนต่อไป

นับแต่ส่งอาวุธมาให้ยูเครน ยอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารอื่นๆ ของสหรัฐฯ ให้ชาติในยุโรปพุ่งสูงขึ้นกว่า 230,000 ล้านดอลลาร์ (8.74 ล้านล้านบาท) โดยค่าอาวุธเหล่านี้เกิน 50% จ่ายให้บริษัทในสหรัฐ

เฉพาะเยอรมนี ประเทศเดียววางแผนจะซื้ออาวุธใหม่มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ (3.8 ล้านล้านบาท) ภายในปีนี้ ซึ่งขณะนี้สถานะการคลังของรัฐบาลเยอรมนีไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น จึงต้องใช้วิธีกู้มาจ่ายค่าอาวุธ

อุตสาหกรรมสงครามของสหรัฐฯ ซึ่งผลิตและส่งออกอาวุธรายใหญ่ สัดส่วนมากกว่า 39% ของยอดขายอาวุธทั่วโลก ราว 210,000 ล้านดอลลาร์/ปี ทำให้สงครามกลายเป็นแหล่งรายได้และผลประโยชน์มหาศาลที่สุด

อาวุธที่ยุโรปนิยมสั่งซื้อมากที่สุดจากสหรัฐฯ คือเครื่องบินรบ F-35 รุ่นล่องหนแต่แพ้นก ราคาลำละราว 79 ล้านดอลลาร์ (3,000 ล้านบาท) โดยฟินแลนด์สั่งซื้อ 54 ลำ

โปแลนด์สั่งซื้อ 32 ลำ และนอร์เวย์ สั่งซื้อ 71 ลำ  เนเธอร์แลนด์ , สหราชอาณาจักร , สวิตเซอร์แลนด์ก็สั่งซื้อเครื่องบินรบรุ่นนี้กว่า 6,000 ล้านดอลลาร์

ส่งผลให้ยุโรปซื้อเครื่องบินรบ F-35 ของสหรัฐ ขายดีมากกว่าเครื่องบินรบที่ผลิตในยุโรปเอง เช่น Eurofighter  Typhoon  Saab JAS 39 Gripen ฯลฯ

ส่วนรถถังนิยมซื้อจากเยอรมนี , ปืนใหญ่ซื้อจากฝรั่งเศส , เรือดําน้ำซื้อจากเยอรมนี , ฝรั่งเศส หรือสหราชอาณาจักร ดังนั้นสมรภูมิรบในยูเครน คือ โรดโชว์สินค้าอาวุธของสหรัฐ และชาติตะวันตกขาใหญ่กลุ่มชาติอุตสาหกรรม G7 พวกเขาต้องการแข่งกันแสดงโชว์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพเพื่อขยายตลาดอาวุธ”