จากที่สถานการณ์ในยูเครนดูเหมือนว่าจะย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ยิ่งเข้าสู่ฤดูหนาวประชาชนต่างพากันเดือดร้อน ในขณะที่ตัวผู้นำยังไม่มีท่าทีเจรจากับฝ่ายรัสเซียเพื่อยุติสงคราม ขณะเดียวกันปรากฏกลุ่มคนลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลด้วย
ทั้งนี้ Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุแหล่งที่มาถึงความเคลื่อนไหวในยูเครนที่เกิดขึ้นมีบางประเด็นที่สำคัญน่าสนใจว่า
“ขณะนี้มีชาวยูเครนในนาม กองกำลังยูเครนเสรี พวกเขาเปิดตัวรวบรวมนักรบชาวยูเครนตั้งกองกำลังติดอาวุธฝ่ายกบฎภายในดินแดนยูเครน มีวัตถุประสงค์ปลดปล่อยชาวยูเครนให้เป็นอิสระจากการปกครองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แล้วเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ที่ไม่ฝักไฝ่ตะวันตก นำพาชาวยูเครนอยู่อย่างสงบ โดยไม่ได้ต้องการแยกเอกราชออกไป
นักรบกลุ่มนี้ทำงานสอดประสานกับทหารรัสเซียในแนวหน้า พวกเขาจะได้รับข่าวกรองชี้เป้าเข้าซุ่มโจมตีแนวหลังต่อทหารฝ่ายกองกำลังผสม และคลังอาวุธตะวันตก
ยังไม่มีการเปิดเผยว่าใครเป็นหัวหน้ากลุ่มยูเครนเสรีนี้ แต่ที่แน่ชัดคือพวกเขาไม่ชอบรัฐบาล และก็ไม่ต้องการให้ชาติตะวันตกหลอกใช้พวกเขาไปต่อสู้เสียเลือดเนื้อกับรัสเซีย จึงเลือกที่จะต่อสู้กับรัฐบาลยูเครนเอง
ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี แห่งยูเครน ก็ยืนยันต่อสื่อว่าใกล้จะมีชัยชนะบุกไปยึดถึงแหลมไครเมีย รัสเซีย จากนั้นจะไปนอนตากอากาศริมทะเลที่นั่น เพราะเขามีวิลล่าหรูหราอยู่ที่แหลมไครเมีย
สิ้นคำประกาศทางการสาธารณรัฐไครเมีย ได้ออกประกาศราชการ สั่งยึดทรัพย์สินวิลล่าหรูชายทะเลของผู้นำยูเครนตกเป็นของรัฐในทันที พร้อมเชื้อเชิญเขาให้รีบไปติดคุกที่ไครเมีย รัสเซีย
ปลายปีนี้อุณหภูมิในยูเครน จะเย็นจัดยะเยือกติดลบ 10 – 20 องศา กองกำลังผสมชาติตะวันตก จะต้องอยู่ท่ามกลางหิมะและร่องสนามเพลาะหลุมหลบภัยขุดร่องที่น้ำเฉอะแฉะเต็มไปด้วยโคลนเหนียวจมไปครึ่งตัว
ร่างกายจะเปียกชื้นในอากาศเย็นตลอดเวลาอันจะนำมาซึ่งความอ่อนแอและเจ็บป่วย มีไข้ จนนอนซมไม่อาจสู้รบได้เหมือนยามปกติ โผล่ออกมาจากหลุมสนามเพลาะก็ไม่ได้เพราะจะโดนลูกยาวจากรัสเซียทันที
ระบบขนส่งโลจิสติกส์เสบียงอาหาร เวชภัณฑ์ อาวุธ จะถูกกลุ่มกบฎยูเครนเสรี ซุ่มโจมตีขบวนและแย่งชิงเอาไปจากแนวหลังระหว่างทางก่อนถึงแนวหน้า เพื่อนำไปเสริมทัพของฝ่ายตนให้เข็มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือสภาพที่กองกำลังผสมตะวันตก และยูเครน จะต้องเผชิญศึก 2 ด้าน ที่ส่วนแนวหน้าภาคพื้นดินจะเต็มพรึบไปด้วยทหารรัสเซียชุดใหม่ กลมกลืนกับภูมิประเทศที่จะส่งมาเติมครบ 300,000 นาย รวมเป็นทั้งหมด 460,000 นาย เดินหน้ารุกคืบไปยังแคว้นเป้าหมายที่เหลือ
ขณะนี้กองทัพรัสเซีย ได้ส่งขีปนาวุธ Iskander-M มาประจำการยังเขตโดเนตสก์แล้ว การปรากฎตัวของขีปนาวุธร้ายแรงระยะพิสัยยิง 500 กม.ชนิดนี้น่ากังวลสำหรับกองกำลังผสมตะวันตกมาก เพราะไม่มีอะไรจะหยุดอานุภาพแม่นยำร้ายกาจของมันได้ และไม่มีทางจะทำลายแท่นฐานยิงเคลื่อนที่ได้ เพราะยิงเสร็จจะเคลื่อนตัวออกจากจุดทันทีไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนที่ไปยิงไป ตลอดทั้งวัน เป็นอะไรที่ปวดหัวมาก
การที่กองทัพรัสเซียส่งขีปนาวุธชนิดนี้มาประจำการในเขตกฎอัยการศึก นับเป็นสัญญาณรุกใหญ่ในช่วงฤดูหนาวจัดนี้ ที่ภายในชาติยุโรปก็จะอ่อนแอทางการเมืองภายในชาติ
การทำศึกที่ดีที่สุดไม่ต้องโหมบุก เพราะฝ่ายบุกจะสูญเสียมากกว่าฝ่ายตั้งรับเสมอ แม่ทัพที่ดีต้องรู้จักอดทนใจเย็น รอให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นอัมพาตอ่อนแอปวกเปียกทั้งระบบการเงิน ศาสตราวุธ พลังงาน อาหาร ระบบสื่อสาร พวกเขาจะแตกแยกและวิวาทกันเอง
จากนั้นค่อยฉวยจังหวะยกทัพดาหน้าไปยึดพื้นที่ดินแดนเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ซึ่งสัญญาณอพยพพลเรือนออกจากแนวหน้าในแคว้นเคอร์ซอนในระยะ 15 กม.เข้ามาอยู่ระยะปลอดภัย”