เปิด3ตัวละครลึก-คุยลับเจรจา! อเมริกาไม่ได้ทำเพื่อยูเครน แต่ผวารัสเซียถล่มนิวเคลียร์นาโต้

0

จากกรณีรายงานข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ออกมาเผยแพร่ถึงการเจรจา โดยอ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ เสียงเรียกร้องของเจ้าหน้าที่อเมริกา ไม่ได้มีเป้าหมายผลักดันให้ยูเครนกลับสู่โต๊ะเจรจากับรัสเซียนั้น

ทั้งนี้โดยแหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า แต่เป็นความพยายามที่ผ่านการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อให้เคียฟยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากประเทศอื่นๆต่อไป

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนยอมรับว่า จุดยืนของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ไม่เจรจากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ก่อความกังวลแก่หลายชาติในยุโรป แอฟริกา และละตินอเมริกา ซึ่งสัมผัสถึงผลกระทบของสงครามที่มีต่อราคาอาหารและเชื้อเพลิงหนักหน่วงที่สุด

ด้านเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุระหว่างเดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันศุกร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ว่า แรงสนับสนุนของวอชิงตันที่มีต่อยูเครนจะยังคงมั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง หลังศึกเลือกตั้งกลางเทอมสภาคองเกรสในวันอังคาร ที่ 8 พฤศจิกายน

โดยสหรัฐฯแถลงมอบเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอีก 400 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงรถถัง T-72 ที่ผ่านการปรับปรุงใหม่จากสาธารณรัฐเช็ก และขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศฮอว์ก ที่สามารถใช้จัดการกับโดรนและขีปนาวุธร่อนของรัสเซีย ส่งผลให้ยอดรวมความช่วยเหลือทางทหารที่อเมริกามอบให้แก่เคียฟแตะ 18,200 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกราน

ล่าสุดวันนี้ 08 พฤศจิกายน 2565 มีความเคลื่อนไหวสำคัญที่ต่อเนื่องถึงกรณีการเจรจาจาก ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ว่า

“อเมริกาผวานิวเคลียร์แอบดอดคุยกับรัสเซีย : พอกองทัพรัสเซียเอาจริงถึงขนาดวางแผนถล่มนาโต้ด้วยนิวเคลียร์ เพราะนาโต้เข้าไปจุ้นในยูเครนมากจนเลยเส้นแดง

ที่ปรึกษาโจ ไบเดนเจ้าเล่ห์อย่างเจ็ค ซัลลิแวน ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาทั้งบารัค โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน พร้อมกันนั้น ก็ได้วางแผนป่วนรัสเซียและยูเครนมาตลอด ถึงกับมีข่าวว่าแอบดอดพูดคุยลับๆกับผู้ช่วยของปูติน และเลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย

หมอนี่เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเยลครับ และได้ทุนการศึกษาโหรดส์ (Rhodes scholarship) ซึ่งเป็นทุนที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ดไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่วิทยาลัยม็อดเลนของอ๊อกซฟอร์ด ระหว่างที่ผมเรียนอยู่ด้วยแต่เขาเรียนโท ส่วนผมเรียนปริญญาเอก”