สงครามตัวแทนยูเครนยืดเยื้อมากว่า ๙ เดือน ๔ ภูมิภาคได้ผนวกเข้ากับรัสเซียด้วยการลงประชามติ แต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนเริ่มจากภัยคุกคามของนาโต้ที่คืบคลานผ่านยูเครนอย่างโจ่งแจ้งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๐๑๔ ครั้งที่สหรัฐและตะวันตกหนุนรัฐประหารในยูเครน และไครเมียลงประชามติขอรวมชาติกับรัสเซีย ฟางเส้นสุดท้ายคือการที่ยูเครนขอเข้านาโต้ และร้องขอติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในพื้นที่ของตัวเองซึ่งติดรั้วบ้านรัสเซีย จนวันนี้ลุกลามเปิดเผยชัดเจนผู้สนับสนุนหลักของยูเครนคือสหรัฐและพันธมิตร กำลังจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ระหว่างรัสเซียและนาโต้ในพื้นที่ยุโรป
อย่างไรก็ตาม บทบาทของรัสเซียต่อนานาชาติสากลไม่ได้หยุดนิ่ง รมว.ต่างประเทศรัสเซียกำลังหารือการค้าสกุลเงินประจำชาติกับนักการทูตชั้นนำของอินเดีย ในหลายประเด็นโดยเฉพาะโครงการพลังงานในอาร์กติก จัดเจรจากันในรูปแบบทวิภาคีระดับสูงที่มอสโกว์
วันที่ ๘ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รมว.ต่างประเทศรัสเซียจะจัดการเจรจากับ สุพราห์มันยัม ขัยชันการ์ (Subrahmanyam Jaishankar) รมว.ต่างประเทศของอินเดียในวันนี้
นักการทูตชั้นนำของรัสเซียและอินเดียมีการติดต่อกันเป็นประจำ ลาฟรอฟไปเยือนนิวเดลีครั้งล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และรมว.ต่างประเทศอินเดียเยือนรัสเซียในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ นอกจากการเยือนทวิภาคีแล้ว รัฐมนตรีทั้งสองยังใช้ทุกโอกาสเพื่อพบปะกัน ระหว่างงานพหุภาคีในสถานที่ระหว่างประเทศ โดยครั้งล่าสุด พบกันในรูปแบบนอกรอบ ของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๗ ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ชัยชันการ์ยังคาดว่าจะพบกับรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดนิส มันตูรอฟ และมีส่วนร่วมในการประชุมคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอินเดีย-รัสเซีย เพื่อความร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย อรินธรรม แบ็กจี (Arindam Bagchi) กล่าวว่า “การเยือนครั้งนี้จะเป็นการติดต่อระดับทวิภาคีในระดับสูงอย่างต่อเนื่องของทั้งสองประเทศ”
ประเด็น “ยูเครนและอัฟกานิสถาน” จะเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหยิบยกมาหารือกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวก่อนการเจรจาว่า รัฐมนตรีทั้งสองจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศที่เร่งด่วน โดยเน้นที่ความร่วมมือในฐานะส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) และ G20 รวมถึงในรัสเซีย-อินเดีย-จีน ในรูปแบบไตรภาคีของ กลุ่ม RIC
ทั้งสองฝ่ายจะหารือถึงการเตรียมการสำหรับ การเป็นประธานSCO ของอินเดียในปีหน้า การต่อสู้กับการก่อการร้าย และประเด็นระดับภูมิภาคจำนวนหนึ่ง รวมถึงการสร้างสถาปัตยกรรมความปลอดภัยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สถานการณ์รอบโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และการพัฒนาในซีเรีย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินเดียระบุว่า ชัยชันการ์จะย้ำจุดยืนของนิวเดลีเรื่องความขัดแย้งในยูเครน โดยเรียกร้องให้กลับสู่การเจรจาและการทูต ปธน. ปูติน กล่าวว่ามอสโกตว์ระหนักถึงจุดยืนนี้และเคารพในจุดยืนของอินเดีย
การประชุมหารือรูปแบบมอสโกว์ในอัฟกานิสถาน กำหนดไว้ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับอินเดียและประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคอื่น ๆ
เรื่องสำคัญที่สองฝ่ายระบุไว้ในการเจรจาคือ “การค้าและการลงทุนในสกุลเงินประจำชาติ” รัสเซียและอินเดียจะหารือเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมความร่วมมือในด้านสำคัญๆ ต่อการค้าและการลงทุน การขนส่งและโลจิสติกส์ ตลอดจนการใช้สกุลเงินประจำชาติในการสถาปนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระดับสูง ตลอดจนโครงการพลังงานในแถบอาร์กติกนอกชายฝั่งและในดินแดนตะวันออกไกล
ปันกาจ อกาวัล(Pankaj Agarwal) เลขาธิการและอธิบดี กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าวย้ำว่า “รัสเซียและอินเดียยังคงให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในด้านเทคนิคทางการทหาร ทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการทำงานในโครงการร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนที่ยาวนาน ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศ”
กิจการด้านต่างประเทศของรัสเซียคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มศักยภาพกลุ่มพหุอำนาจใหม่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกันปธน.ปูตินกำลังเดินสายพบประชาชน
ปธน.ปูตินเปิดเผยว่า เขาวางแผนที่จะจัดการกับความกังวลของผู้คนบางส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการระดมพลเป็นการส่วนตัว โดยจัดการประชุมสาธารณะ คาดว่าการชุมนุมจะเกิดขึ้นในระหว่างการเยือนภาคกลางของแคว้นตเวียร์สกายา(Tverskaya Oblast)
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ปูตินกล่าวกับอิกอร์ รูเดนยา (Igor Rudenya) ผู้ว่าการภูมิภาคตเวียร์สกายาว่า “ฉันจะพบปะกับผู้คนอย่างแน่นอน พูดคุยกับพวกเขา รับฟังความเห็นและคำติชมจากพวกเขา เกี่ยวกับการระดมพล” ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการระดมพลโดยทันทีและแจ้งให้เขาทราบล่วงหน้า เขาคาดว่าจะมาถึง แคว้นตเวียร์สกายาปลายสัปดาห์นี้
ปูตินประกาศยุติการระดมพลบางส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียบรรลุเป้าหมายอย่างเต็มที่ในการเรียกระดมกำลังพล ๓๐๐,๐๐๐ นายตามที่กำหนดไว้ในกฤษฎีกา กระทรวงกลาโหมรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ามีการส่งทหาร ๔๙,๐๐๐ นายได้เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารแล้ว และอีก ๘๐,๐๐๐ นายส่งไปประจำการยังเขตต่อสู้ ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการฝึกฝน