จากที่มีรายงานโฆษกรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯขึ้นอยู่กับวอชิงตันยอมรับฟังความกังวลมอสโกต่อปัญหาความมั่นคงหรือไม่นั้น
ต่อมาวันที่ 07 พฤศจิกายน 2565 มีรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เผยแพร่ออกมาว่า เพื่อคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนจากประเทศอื่น ๆ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งกระทรวงการต่างประเทศอเมริกากล่าวหามอสโกกำลังทำให้สงครามลุกลามบานปลาย และไม่ปรารถนาอย่างจริงจังที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ
โดยหนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่า เสียงเรียกร้องของเจ้าหน้าที่อเมริกา ไม่ได้มีเป้าหมายผลักดันให้ยูเครนกลับสู่โต๊ะเจรจา แต่เป็นความพยายามที่ผ่านการไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อให้เคียฟยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากประเทศอื่นๆต่อไป
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนยอมรับว่า จุดยืนของประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ไม่เจรจากับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ก่อความกังวลแก่หลายชาติในยุโรป แอฟริกา และละตินอเมริกา ซึ่งสัมผัสถึงผลกระทบของสงครามที่มีต่อราคาอาหารและเชื้อเพลิงหนักหน่วงที่สุด
ขณะที่ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลที่สำคัญในกรณีดังกล่าวผ่านการโพสต์ข้อความลง Blockdit ด้วยว่า
“กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนมืดมิด ขณะนี้ ไฟฟ้าดับไปแล้ว ๔๐% ถ้ารัสเซียยังถล่มต่อเนื่องระบบไฟฟ้าอาจถูกทำลายไปทั้งเมือง รัฐบาลมีแผนการอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ราว ๓ ล้านคนไปหาอยู่ที่อื่น”
ทั้งนี้เมื่อข้อความของดร.ปฐมพงษ์ เผยแพร่ออกไปสู่โลกโซเชียลฯ ก็ปรากฏว่า มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อข้อความดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ เช่น
“ประชาชนเดือดร้อนหนัก บ้านแตกสาแหรกขาด ประเทศชาติพังพินาศย่อยยับ เศรษฐกิจล่มสลาย มองหาทางชนะไม่มีเลย แต่ผู้นำประเทศกับไม่คิดที่จะยอมแพ้หรือเจรจาใดๆ เพื่อยุติสงคราม หัวใจกี้ทำด้วยอะไร ถึงไม่รู้สึกรู้สา เห็นใจ ประชาชนชาวยูเครนเลย”
“ตอนนี้อยู่เบลเยี่ยม มีคนไทยเล่าว่าคนยูเครนมาถามคนไทยว่า จะไปอยู่ประเทศไทยได้อย่างไร”
“ถึงไม่ชอบผู้นำ แต่ก็ยังเห็นใจประชาชนยูเครนครับ”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ Blockdit World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงการใช้ไฟฟ้าและน้ำของยูเครนในช่วงเวลาที่ถูกโจมตีจากรัสเซียด้วยว่า
ยูเครน ยังคงไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาใช้โดยทั่วไป เพราะระบบการกรองและปั๊มน้ำที่ต้องใช้ไฟฟ้าพังใช้การไม่ได้ จึงพบเห็นชาวยูเครนในเมืองหลวงกรุงเคียฟ ยืนเข้าคิวต่อแถวเพื่อกรอกน้ำจากหัวจ่ายประปาที่ยังเหลือ ใส่ถังบรรจุขนกลับไปบ้าน
ส่วนไฟฟ้าที่ใช้ได้จะมีเพียงไฟส่องสว่างจากระบบโซลาเซลล์ หรือธุรกิจร้านค้าของผู้มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น ไม่มีใช้ในอาคารสูง บ้านเรือนทั่วไป การทำธุรกรรมทางการเงิน การธนาคาร ตลาดทุน หยุดชะงักทั้งหมด
