จากเมื่อวันที่ 04 พฤศจิกายน 2565 Blockdit WorldUpdate เปิดเผยถึงการโหวตในที่ประชุมสหประชาชาติ ซึ่งมีนัยยะสะท้อนถึงความล่มสลายของฝ่ายอำนาจเก่าที่นำโดยสหรัฐ ขณะชาติสำคัญอย่างยูเครนก็ไม่เอาด้วยนั้น
ทั้งนี้ Blockdit WorldUpdate ได้เผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญผ่านแหล่งที่อย่าง shtab24 และ Russiya1 Afique โดยข้อความที่มีการนำมาโพสต์ไว้ระบุว่า
“ที่ผ่านมาสหรัฐ ได้สร้างระเบียบโลกเก่า หรือ กติกาเทมเพลตของตนเองขึ้นมาหลายด้าน เช่น การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร ความมั่นคง สาธารณสุข การศึกษา สิ่งแวดล้อม ฯลฯ
จากนั้นก็บังคับครอบงำระเบียบโลกเก่านี้กับนานาชาติไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถ้าชาติใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะถูกกล่าวหาว่า เป็นเผด็จการ เป็นภัยคุกคาม ไม่เป็นประชาธิปไตย ละเมิดสิทธิมนุษยชน ค้ามนุษย์ หรืออะไรก็สุดแล้วแต่จะยัดข้อกล่าวหา
จึงมีประเทศที่มีทรัพยากรพลังงานมากมายตกเป็นเหยื่อระเบียบโลกเก่า ถูกกล่าวหาด้วยข้ออ้างเหล่านี้ จากนั้นก็ไปบังคับนานาชาติให้ลงมติตามความต้องการสหรัฐ ในการยกทัพไปรุมทิ้งระเบิดใส่พลเรือน
เช่น ในอิรัก ซีเรีย ลิเบีย ยูโกสลาเวีย แต่ช่วงหลังมารัสเซีย จีน มหาอำนาจใหม่คัดค้านในลงมติป่าเถื่อน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ ทำให้สหรัฐ และบริวาร กลุ่มสงคราม NATO กระทำกันเอง โดยไม่อาศัยฉากหน้าสหประชาชาติ
เมื่อโลกข่าวสารสมัยพัฒนาขึ้นการทำสงครามรุมชาติอื่นซึ่งหน้า ไม่ได้รับการยอมรับ สหรัฐจึงใช้วิธี “สร้างสงครามตัวแทน” โดยสนับสนุนเงินและอาวุธผ่านองค์กร NGOs ไปยังประเทศเป้าหมาย
ให้กลุ่มก่อการร้ายท้องถิ่นสารพัดชื่อเจ้าของเดียว จับอาวุธต่อสู้กับภาครัฐ เช่น ในตะวันออกกลาง แอฟริกา ละตินอเมริกา เอเซีย อาเซียน ที่ใกล้ไทยก็ที่ฮ่องกง เมียนมาร์ ฯลฯ
การต่อสู้รัฐมีทั้งการกราดยิงสังหารหมู่ ลอบสังหารบุคคลสำคัญ คาร์บอม ก่อวินาศกรรม ก่อม็อบวุ่นวายทำลายทรัพย์สินสารธารณะ ปั่นกระแสข่าวปลอมโกหกบิดเบือน ฯลฯ
เมื่อรัฐปราบปรามบังคับใช้กฎหมายกลุ่มหนอนร้ายภัยความมั่นคงของชาติเหล่านี้อย่างเฉียบขาด ก็จะถูกสหรัฐ ออกมาโวยวายว่าเป็นเผด็จการ ใช้ความรุนแรง แต่การใช้ความรุนแรงจากรัฐกับม็อบแบบเดียวกันในยุโรป เช่น ล่าสุดในเนเธอร์แลนด์ ตำรวจใช้ม้าหลายสิบตัวตะลุยม็อบจนเจ็บระนาว แต่สหรัฐ และสื่อตะวันตกก็เงียบ
แต่ถ้าเป็นชาติด้อยกว่าจะจบด้วยต่อรองเอาสิ่งที่สหรัฐ ต้องการถ้าขัดขืนก็จะประกาศคว่ำบาตร กีดกันทางเศรษฐกิจ บังคับกติกาข่มขู่ไม่ให้ชาติทั่วโลกคบหา ทำการค้าด้วย ชาติที่ถูกสหรัฐ รังแกฝ่ายเดียวมายาวนานมาก คือ เกาหลีเหนือ อิหร่าน คิวบา
ช่วงปลายเดือน ตุลาคม 2022 ที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ (UN) ได้มีมติท่วมท้น 152 ต่อ 5 บังคับให้อิสราเอล ต้องกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ และถ่ายโอนโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ให้กับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ในสังกัดสหประชาชาติ
มี 5 ชาติส่วนน้อยที่คัดค้านคือ สหรัฐ อิสราเอล แคนาดา ไมโครนีเซีย และปาเลา นับเป็นความพ่ายแพ้อย่างหนักในเวทีนานาชาติของสหรัฐ อิสราเอล ที่พยายามยื้อมาหลายสิบปี เคยสั่งชาติอื่นให้โหวตตามต้องการได้ เพราะแม้แต่ชาติบริวารในยุโรป ก็ไม่ร่วมโหวตคัดค้านช่วยอิสราเอล ด้วย ต่างพากันงดออกเสียงอย่างพร้อมเพรียง
ที่น่าสนใจมากคือ ยูเครน ที่มีประธานาธิบดีเซเลนสกี้ เป็นชาวยิว ก็ร่วมโหวตเป็น 1 ใน 152 เสียงส่วนใหญ่บังคับอิสราเอลด้วย โดยบิดา มารดาของผู้นำยูเครน มีสัญชาติอิสราเอล
เป็นเจ้าของบ้านหรูหราเมือง Rishpon ในอิสราเอล มูลค่า 8 ล้านดอลลาร์ พื้นที่บ้าน 950 ตารางเมตร จ้างบอดี้การ์ดจากอดีตหน่วย SAS อังกฤษ 4 รายรักษาความปลอดภัยอัตรา 12,000 ปอนด์/เดือน ใช้รถยนต์หุ้มเกราะ 2 คัน”