ฮือฮาอีกแล้วกับอาการไบเดน ระหว่างปาฐกถาให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดโมแครต พูดอย่างมั่นว่า เขาไปหาเสียงมาแล้ว ๕๔ รัฐ ทำเอาผู้ฟังงงเพราะอเมริกามีแค่ ๕๐รัฐ แบบนี้รีพับลิกันและทรัมป์ยิ้มอ่อน หลังโพลชี้คนอเมริกันเกินครึ่งเชื่อ เลือกตั้งกลางเทือมสัปดาห์หน้า เดโมแครตจะแพ้กระจุยและเชื่อว่า รีพับลิกันจะฟ้องร้องคดีอาญาหลายเรื่องต่อปธน.ไบเดน แล้วยังเชียร์ให้ถอดถอนขับไล่อีกด้วย
วันที่ ๔ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และยูเอสนิวส์รายงานว่า โพลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่าครึ่งของชาวอเมริกัน คาดหวังให้พรรครีพับลิกันฟ้องร้องถอดถอนไบเดน และยังเชื่อว่า “มีความเป็นไปได้สูง” ที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันจะชนะการเลือกตั้งกลางเทอมและควบคุมรัฐสภา
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังคิดด้วยว่าชัยชนะของพรรครีพับลิกันในสัปดาห์หน้าอาจหมายถึงการถอดถอนประธานาธิบดีโจ ไบเดนด้วย
การสำรวจทางโทรศัพท์และออนไลน์ระดับชาติล่าสุดของแรสมัสเซ่น รีพอร์ต(Rasmussen Reports) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบว่า ๕๔% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐฯ เชื่อว่าหากพรรครีพับลิกันชนะการควบคุมรัฐสภาในการเลือกตั้งปีนี้ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะฟ้องร้องปธน.โจ ไบเดน รวมถึง ๒๒% กล่าวว่ามีโอกาสมาก ๓๒%ไม่คิดว่าเป็นไปได้ที่สภาคองเกรสที่ควบคุมโดยรีพับลิกันทั้งหมดจะฟ้องร้องถอดถอนไบเดน รวมถึงที่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ๑๒% ไม่แน่ใจ อีก ๑๓%
ผลสำรวจมีขึ้นน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนกลางเทอมวันที่ ๘ พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งพรรคเดโมแครตของไบเดนคาดว่า จะสูญเสียการควบคุมสภาและวุฒิสภา พรรครีพับลิกันมีความกระตือรือร้นมากในการลงคะแนนเสียงช่วงกลางเทอม โดยเมื่อถูกถามว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งของพรรคใดที่พวกเขาจะสนับสนุนในเขตรัฐสภาของพวกเขา อัตราได้รับชัยชนะขั้นต้น เดโมแครตคาดว่าจะได้ ๒๔% ถึง๓๘% – และ รีพับลิกัน มีคะแนนนำ ๔๗% ถึง ๕๑%
ในขณะที่โพลล่าสุดของแรสมัสเซ่น แสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่คาดหวังว่าปธน.ไบเดนจะถูกฟ้องร้อง แต่การสำรวจก่อนหน้านี้นักวิจัยพบว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการให้ปธน.ถูกขับไล่ถอดถอนด้วย เมื่อเดือนกันยายนพบว่า ๕๒% ของผู้ลงคะแนนเชื่อว่าไบเดนควรถูกฟ้องร้อง เทียบกับ ๔๒% ที่ไม่เห็นด้วยกับการฟ้องร้องผู้นำ
แม้ว่าสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันจะลงมติให้ถอดถอนไบเดน แต่ประธานาธิบดีก็ไม่น่าจะถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งได้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้อย่างน้อยสองในสามของวุฒิสภาลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้มีมติให้ถอดถอนประธานาธิบดี จึงจะทำได้
หากรีพับลิกันได้รับชัยชนะในช่วงกลางเทอม ก็สามารถนำมาอ้างได้ว่ามีอำนาจในการดำเนินคดี โดยอ้างผลสำรวจโพลแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันคาดหวังจะได้รับ เมื่อพวกเขาลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรครีพับลิกัน
อีกโพลหนึ่งก่อนเลือกตั้งชี้ชัดเดโมแครตจะล้มเหลวในการเลือกตั้งกลางเทอมสัปดาห์หน้า การสำรวจของ CNN พบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และไม่ไว้วางใจพรรคเดโมแครตและปธน.ไบเดนในการจะแก้ไขปัญหาอีกต่อไป
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามในสี่ไม่พอใจกับทิศทางที่เศรษฐกิจของอเมริกาที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ภาวะารีเซสชั่นหรือเศรษฐกิจถดถอย จากการสำรวจพบว่า ปัญหาเศรษฐกิจอยู่ในความวิตกลำดับแรกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และมีเพียงไม่กี่คนที่ไว้วางใจให้พรรคประชาธิปัตย์สู้กับอัตราเงินเฟ้อต่อ
ผลสำรวจพบว่า ๗๕% ของคนอเมริกันเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะถดถอยแล้ว ขณะที่ ๕๕% ไม่พอใจกับสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง และ ๗๔% กล่าวว่า”สิ่งต่างๆ ในประเทศกำลังแย่อยู่ในวันนี้”
ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๕๑% บอกกับซีเอ็นเอ็นว่าเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นปัญหาหลักที่พวกเขาตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใครในวันอังคารหน้า อีกประเด็นเดียวที่จะทำลายตัวเลขถึงสองเท่าคือนโยบายการทำแท้ง โดย ๑๕% ของผู้ลงคะแนนให้คะแนนข้อกังวลนี้อันดับหนึ่ง
ทั้งหมดนี้เป็นข่าวร้ายสำหรับพรรคเดโมแครตและไบเดน เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ระบุว่าเศรษฐกิจเป็นปัญหาอันดับต้นๆ พวกเขาจะสนับสนุนพรรครีพับลิกันในเขตบ้านของตน ๗๑% และกลุ่มนั้นชอบให้พรรครีพับลิกันจัดการกับเงินเฟ้อ เทียบกับเพียง ๑๘% ที่เลือกพรรคเดโมแครต
โพลนี้เป็นการสำรวจล่าสุดที่วาดภาพก่อนการเลือกตั้งที่น่าหดหู่สำหรับพรรคเดโมแครต โดยผลสำรวจของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันอังคารยังพบอีกว่า มีเพียง ๑๙% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง โพลทั้งสองพบว่าผู้สมัครพรรครีพับลิกัน จะได้คะแนนนำพรรคเดโมแครตในการลงคะแนนเสียงทั่วไป และผู้มีสิทธิเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันมีความกระตือรือร้นในการแก้ปัญหามากกว่าพรรคเดโมแครต
พรรครีพับลิกันได้ย้ำประเด็นราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อสูงต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้มีข้อได้เปรียบจากการสำรวจความคิดเห็น ๑๗ ฉบับของกลุ่ม เรียลเคลียร์ โพลิติกส์(Real Clear Politics)
นอกจากนี้ ๖๑% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กล่าวว่า ปธน.ไบเดนไม่ได้ให้ความสนใจกับปัญหาที่สำคัญที่สุดที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ แต่กลับเน้นนโยบายต่างประเทศทุ่มเงินหนุนสงครามยูเครน ไบเดนอ้างตลอดว่า”ประชาธิปไตยอยู่ภายใต้การคุกคาม” เป็นหน้าที่ของสหรัฐต้องแสดงบทบาทการเป็นผู้นำโลกประชาธิปไตย??