หลังจากที่สถานการณ์ในยุโรปเข้าขั้นวิกฤติอย่างหนัก และยังไม่มีท่าทีว่าผู้นำแต่ละประเทศจะจัดการปัญหาได้ ยิ่งอากาศเริ่มหนาว ทำให้หลายประเทศได้รับผลกระทบ เช่น อังกฤษ ที่ล่าสุดแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 มากสุดรอบ 33 ปี ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุด ยังถือเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ซึ่งในเดือนกันยายน เงินเฟ้ออังกฤษพุ่งร้อยละ 10.1 สูงสุดในรอบ 40 ปี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 เท่ากัน ทำให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 3.75-4.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551
ทั้งนี้ยังพบว่า บางประเทศในยุโรปออกมาตุนฟืน เพื่อเอาไว้จุดไฟคลายหนาว และน่าเศร้าว่าในช่วงเทศกาสคริสมาสต์ พวกเขาอาจจะไม่ได้ประดับประดาไฟเพื่อเฉลิมฉลองด้วย แม้ว่าประชากรยุโรป จะออกมาประท้วงว่า อยากให้ผู้นำกลับไปง้อรัสเซีย เพราะต้องการพลังงานและชีวิตที่สงบสุข และไม่ต้องการให้ชาติตัวเองหนุนยูเครนอีกต่อไป
ล่าสุดยุโรปกำลังท้าทายรัสเซียอีกครั้ง โดยมีรายงานว่า สหภาพยุโรปกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้สินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียมูลค่าหลายพันล้านยูโรซึ่งถูกอายัดโดยประเทศสมาชิกแล้ว เพื่อช่วยในการฟื้นฟูยูเครน
ทั้งนี้พบว่าการอภิปรายอยู่ในขั้นเริ่มต้นแล้ว และเมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้รับมอบหมายให้พิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ ในการถอนเงินสำรองบางส่วนของธนาคารแห่งรัสเซียที่ตั้งอยู่ในยุโรป มีการแนะนำจากผู้ที่เกี่ยวข้องว่า การตัดสินใจดังกล่าวจำเป็นต้องมีการแก้ไขกรอบกฎหมายก่อน โดยการอภิปรายในเรื่องนี้จะเก็บไว้เป็นความลับไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากการประเมินการควบคุมทรัพย์สินหรือวิธีการนั้นซับซ้อนอย่างยิ่งและอาจเต็มไปด้วยเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย
แน่นอนว่าหากผลพิจารณานี้ผ่านขั้นตอนไป ยูเครนย่อมอยากได้เงินก้อนโตเพื่อไปฟื้นฟูประเทศอยู่แล้ว แต่การกระทำดังกล่าว ยิ่งเป็นการตอกย้ำสัมพันธ์ต่อรัสเซีย และยิ่งท้าทายให้รัสเซียเอาคืนแบบหนักมากขึ้น เพราะทางการรัสเซียได้เปิดเผยด้วยว่า เขาไม่อาจมองอังกฤษได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่อาจนิ่งเฉยกับการกระทำของชาติใน EU ที่เข้ามาท้าทายไม่สิ้นสุด ซึ่งหากมีการนำทรัพย์สินที่ยึดจากรัสเซียไว้ที่ธนาคารกลางออกมาให้ยูเครน งานนี้ก็อาจจะวัดใจปูติน ว่าจะทำอย่างไร EU และจะเละหรือไม่
