ยูเครนสุดมืดมิด 4.5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เซเลนสกีผวารัสเซียใช้แผนใหม่ ขุดหลุมล่อเหยื่อจัดการทหารเคียฟ

0

จากปฏิบัติการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนอย่างหนัก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกมาระบุว่า ปฏิบัติการของรัสเซียที่เล็งเป้าถล่มโครงข่ายทางพลังงานของยูคเรน ส่งผลให้มีชาวบ้านราว 4.5 ล้านคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลเคียฟก็แสดงความกังวลว่ามอสโกอาจกำลังขุดหลุมล่อเหยื่อ หลังส่งสัญญาณว่าจะถอนกำลังออกจากชายฝั่งทางตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร

กองกำลังของทั้งสองฝ่ายยังคงสู้รบ โดยยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญใด ๆ ในแนวหน้าทางตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ขณะเดียวกัน ก็เตรียมพร้อมสำหรับเปิดฉากทำศึกแย่งชิงแคว้นเคียร์ซอน ดินแดนยุทธศาสตร์สำคัญทางภาคใต้

“วันนี้ผู้บริโภคราว 4.5 ล้านน ถูกตัดการเชื่อมต่อจากการบริโภคพลังงานชั่วคราว” เซเลนสกีกล่าวระหว่างปราศรัยรายวัน “ข้อเท็จริงคือ การที่รัสเซียกำลังเลือกหนทางก่อการร้ายทางพลังงาน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของศัตรูของเรา พวกเขาไม่สามารถเอาชนะยูเครนได้ในสนามรบ ดังนั้น พวกเขาจึงพยายามทำร้ายประชาชนของเราด้วยแนวทางนี้”

เป็นเวลานานหลายสัปดาห์แล้วที่กองกำลังรัสเซียยิงห่าฝนขีปนาวุธและปล่อยโดรนโจมตีเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน ดูเหมือนเป็นปฏิบัติการที่หวังเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนชาวยูเครนและบรรดาประเทศเพื่อนบ้านที่มีต่อสงคราม ท่ามกลางความหนาวเหน็บในช่วงฤดูหนาว

การโจมตีของรัสเซียในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำลายสถานีไฟฟ้าของยูเครนไปราว ๆ 1 ใน 3 และรัฐบาลเรียกร้องประชาชนชาวยูเครนให้ประหยัดไฟฟ้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนหน้าการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (จี7) ในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) แอนนาลีนา แบร์บอค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี บอกว่า จี 7 จะช่วยเหลือยูเครนในด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ในนั้นรวมถึงเครื่องปั่นไฟและเครื่องทำความร้อน เพื่อให้อยู่รอดในช่วงฤดูหนาว

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่รายหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในทางภาคใต้ของยูเครน เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่มอสโกจะถอนกำลังออกจากริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดมิโปร ในแคว้นเคียร์ซอน และเร่งเร้าพลเมืองอพยพออกมา สัญญาณแห่งการล่าถอยที่อาจเป็นความพ่ายแพ้อีกหนหนึ่งของทางรัสเซีย หรือไม่ก็เป็นแผนกลลวงที่ยากเกินคาดเดา

อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในมอสโกยังคงปิดปากเงียบ และรัฐบาลเคียฟกับบรรดานักวิเคราะห์ด้านการทหารของตะวันตกยังคงแสดงท่าทีระมัดระวัง บ่งชี้ว่ามันอาจเป็นการวางหลุมพรางของทางรัสเซีย สำหรับจัดการกับทหารยูเครนที่รุกคืบเข้ามา

โดยคิริล สเตรมูซอฟ รองผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นเคอร์ซอนกล่าวว่า “มีความเป็นไปได้ว่ากำลังพลของเราทั้งหมด จะถอนกำลังอกจากฝั่งทางซ้าย (ตะวันออก) ของแม่น้ำ”

พื้นที่ดังกล่าวรวมไปถึงเมืองเคอร์ซอน เมืองเอกของแคว้นที่มีชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นเมืองหลักเพียงแห่งเดียวที่รัสเซียสามารถยึดครองได้อย่างมั่นคง นับตั้งแต่พวกเขาเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงอีกฟากฝั่งหนึ่งของเขื่อนแห่งหนึ่งที่ทอดขวางแม่น้ำดนิโปร ซึ่งควบคุมอุปทานน้ำสำหรับป้อนสู่พื้นที่ชลประทานไครเมีย แหลมที่รัสเซียยึดครองมาตั้งแต่ปี 2014 ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยออกมายืนยันว่ากองกำลังของพวกเขาไม่มีแผนถอนตัวจากพื้นที่แถบนี้

จส. 100
ทั้งนี้มีการคาดเดากันไปต่าง ๆ ว่ารัสเซียถอนกำลังจริงหรือไม่ หลังปรากฏภาพบนอินเทอร์เน็ตว่าอาคารบริหารหลักในเมืองเคอร์ซอน ไม่มีธงชาติรัสเซียปลิวไสวอยู่ด้านบนอีกต่อไป แต่ทางยูเครนตั้งข้อสังเกตว่าภาพเหล่านี้อาจเป็นการจงใจบิดเบือนข้อมูลของทางรัสเซีย

โฟกัสโลกรอบสัปดาห์ : 6 เมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์การรบรัสเซีย-ยูเครน

อย่างไรก็ตาม นาตาเลีย ฮูเมเนียค โฆษกกองบัญชาการใต้ของยูเครน ชี้ว่ามันอาจเป็นหลุมพรางของทางรัสเซีย “นี่อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ของการยั่วยวนโดยเฉพาะ เพื่อก่อภาพจำว่าถิ่นฐานเหล่านี้รกร้าง และปลอดภัยที่จะบุกเข้าไป ในขณะที่พวกเขาเตรียมพร้อมสู้รบบนท้องถนน”

ผบ.กองกำลังรัสเซียในยูเครนรับ 'กดดัน' หลังยูเครนสู้กลับ!