สถานการณ์ล่าสุดในสมรภูมิยูเครน เมื่อพ่ายในแนวหน้าก็เล่นแนวหลัง เผลอเป็นลอบกัดเป็นวิธีการของยูเครนที่ใช้มาตลอดไม่เลือกเวลา จากการปลอมเป็นเรือขนส่งธัญญพืชแต่ถล่มกองเรือรัสเซียในทะเลดำ ส่งผลให้ปูตินเอาคืนแสบ รัสเซียถล่มไม่ยั้งโครงสร้างพื้นฐานพลังงานยูเครน กรุงเคียฟโอดถูกตัดน้ำตัดไฟ แต่ยังโม้สกัดขีปนาวุธรัสเซียเกือบหมด
กองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีสถานีไฟฟ้าพลังงานน้ำของยูเครนและที่ตั้งทางพลังงานอื่นๆ ในตอนเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่มีไฟฟ้าใช้และน้ำใกล้หมดแล้ว ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ ที่พบเห็นชาวบ้านต้องต่อแถวรอรับน้ำยาวเหยียด
นายเดนิส ชมีฮัล (Denys Shmyhal) นายกรัฐมนตรียูเครน แถลงว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธกว่า ๕๐ ลูกโจมตีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของยูเครนทำให้สถานีไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดใหญ่ในเมืองเครเมนชัค (Kremenchuk)ภาคกลางของยูเครนได้รับความเสียหาย ส่งผลต่อระบบสาธารณูปโภค กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกตัดขาด และน้ำประปาไม่ไหลในหลายพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานได้รับความเสียหายถึง ๑๘ แห่ง
วันที่ ๑ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิก รายงานว่าปธน.ปูตินแถลงข่าว ระบุว่า “โดรนยูเครนใช้ทางเดินเพื่อมนุษยธรรมเพื่อโจมตีเซวาสโทพอล ทำให้การขนส่งธัญพืชตกอยู่ในความเสี่ยง”
ในการแถลงข่าวที่เมืองโซซีกับผู้นำของอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานหลังการเจรจาไตรภาคีที่มุ่งฟื้นฟูสันติภาพในคอเคซัส ปธน.ปูติน กล่าวว่า “กองกำลังยูเครนได้คุกคามเรือบรรทุกสินค้าที่บรรทุกธัญพืชผ่านทางเดินเพื่อมนุษยธรรมที่กองกำลังรัสเซียจัดตั้งขึ้น เพื่ออนุญาตเปิดทางของพวกเขาใกล้เขตความขัดแย้งแต่กลับแฝงตัวมาโจมตี”
ปูตินเปิดเผยว่า ทางเดินถูกสร้างขึ้นภายใต้ข้ออ้างเพื่อประกันผลประโยชน์ของประเทศที่ยากจนที่สุด แต่ธัญพืชส่วนใหญ่ที่ส่งออกผ่านทางเดินนี้ไม่ได้ส่งไปยังผู้ที่ต้องการมากที่สุดจริง ธัญพืช ๓๔% จะส่งไปยังตุรกี ๓๕% หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย – ไปยังประเทศในสหภาพยุโรป และมีเพียง ๓ ถึง ๔% เท่านั้นที่ไปสนับสนุนประเทศที่ยากจนที่สุด”
การระงับข้อตกลงเป็นไปเพื่อตอบสนองกับสถานการณ์ และมอสโกว์จะเข้ามาช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระงับข้อตกลงด้านธัญพืชให้ได้มากที่สุด
ด้านวาสซิลี เนเบนเชีย Nebenziaเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ได้ชี้แจงกับคณะมนตรีความมั่นคงว่า “การทารุณกรรมด้านมนุษยธรรมของยูเครนทำให้มอสโกว์ต้องระงับข้อตกลงอิสตันบูลในทันที”
ทูตรัสเซียกล่าวว่า “ยูเครนได้ละเมิดอย่างร้ายแรง ต่อข้อตกลงอิสตันบูลเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำ และบังคับให้มอสโกว์ต้องระงับข้อตกลงนี้อย่างไม่มีกำหนด กองทัพเรือรัสเซียจะตรวจสอบเรือสินค้าทุกลำที่มุ่งหน้าไปยังยูเครน แม้กระทั่งเรือที่ศูนย์ประสานงานในตุรกีเข้าเคลียร์ได้เพียงฝ่ายเดียว”
เขากล่าวเสริมว่า “การกระทำที่ทำลายล้างของเคียฟนี้เป็นการละเมิดข้อตกลงของอิสตันบูลอย่างไม่มีการลดหย่อน และทำให้มิติด้านมนุษยธรรมของพวกเขายุติลง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทุกคนเห็นต่างรู้เห็นว่ามีการใช้ทางเดินเพื่อมนุษยธรรมในทะเลดำโดยฝ่ายยูเครน เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อวินาศกรรมทางทหาร” เนเบนเซีอ้างถึงการโจมตีกองเรือรัสเซียในทะเลดำด้วยโดรนของแคนาดาเมื่อวันเสาร์ที่เซวาสโทพอล แหลมไครเมีย
เนเบนเชียกล่าวย้ำว่า “รัสเซียไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของเรือพลเรือนที่เข้าร่วมในโครงการทะเลดำ” “เนื่องจากเราไม่ทราบว่าการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่เคียฟเตรียมการโดยได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกจะลงมืออีกเมื่อใด”
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่มอสโกว์ประกาศระงับข้อตกลงดังกล่าว ศูนย์ประสานงานร่วม (JCC) ในอิสตันบูลกล่าวว่ามีเรือ ๑๖ ลำออกเดินทางในวันจันทร์ และได้แจ้งรัสเซียเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าว จากข้อมูลการจราจรทางทะเล เรืออย่างน้อยสองลำออกจากท่าเรือโอเดสซาในช่วงเช้าของทะเลดำ โดยอิสตันบูลเป็นจุดหมายปลายทาง
เนเบนเซียกล่าวกับสหประชาชาติว่า “การตัดสินใจและมาตรการที่ดำเนินการโดยไม่มีส่วนร่วมของเราไม่มีผลผูกพันกับเรา มอสโกว์ไม่อนุญาตให้เรือผ่านโดยปราศจากการตรวจสอบของเรา เราถูกบังคับให้ต้องดำเนินมาตรการอิสระเพื่อตรวจสอบเรือทุกลำ แม้ที่ได้รับอนุญาตจาก JCC แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจากรัสเซีย
แรงมาแรงกลับ เพราะตะวันตกทำปิดหูปิดตาให้เคียฟลอบกัด รัสเซียจึงไม่ประนีประนอมอีกต่อไป ส่งผลให้การส่งออกของรัสเซียไปยังยุโรปหยุดชะงักด้วย ตามข่าวจากโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ปูตินสั่งให้ส่งออกไปยังอาฟริกาและประเทศที่ยากจนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ระงับส่งไปยุโรปชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ในด้านการทหาร นอกจากตัดน้ำตัดไฟยูเครนแล้ว ได้ส่งขีปนาวุธคินซาลไปยังที่ตั้งทางทหารในโอเดสซา และจัดหนักขีปนาวุธรัวๆจากไครเมียตลอดคืน
การโจมตีกองเรือรัสเซียในทะเลดำ เคียฟเคลมว่าทำลายเรือฟริเกตรัสเซียยับ แต่ข้อเท็จจริงคือ เรือฟรีเกตแอดไมรัล เมคารอฟ (Admiral Makarov) ยังคงลอยเด่นเป็นสง่าในเซวาสโทพอล เพราะรัสเซียสกัดโดรนยูเครนได้ทันแล้วนำมาตรวจสอบจึงพบว่าเป็นของแคนาดา จดบันชีไว้อีกหนึ่งฐานรุมรัสเซียอย่างเปิดเผย