หลังจากที่มีรายงานว่า รัสเซียได้ระงับการเข้าร่วมข้อตกลงธัญพืชที่มีสหประชาชาติเป็นคนกลาง ตามหลังสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ของยูเครน เล่นงานกองเรือของพวกเขาในไครเมีย ความเคลื่อนไหวที่ก่อความเสียหายแก่ความพยายามคลี่คลายวิกฤตอาหารโลก โดยมีเหตุสืบเนื่องมาจาก ยูเครนโจมตีกองเรือทะเลดำใกล้เมืองเซวาสโตโพล ในแหลมไครเมีย ที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ด้วยโดรน 60 ลำ ในช่วงเช้าวันเสาร์ ที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีผู้เชี่ยวชาญของกองทัพเรืออังกฤษคอยช่วยประสายงานการโจมตี “ก่อการร้าย” ดังกล่าว
ครั้งนี้รัสเซียเลยเลือกที่จะตอบโต้กลับรุนแรงกว่า เพราะยูเครนท้าทายอำนาจรัสเซียมากเกินไป รอบนี้ปูตินจึงระงับการส่งออกธัญพืชทันที ทำให้รอบนี้ยูเครนจะยิ่งจมดิ่งกว่าเดิม อาวุธขาดแคลน ไฟฟ้าไม่มีใช้ และยังไร้เสบียง ถูกตัดช่องทางทำกินที่เคยได้รับโอกาสก่อนหน้านี้ด้วย
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก เดือดทะลักจุดแตก ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ช็อก! ช็อก! ช็อก!
“ระงับโดยไม่มีกำหนด” ข้อตกลงที่รัสเซียอนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญญาหารจากท่าเรือยูเครน จบลงแล้วครับนาย
ฤานี่คือกลยุทธ์จุดชนวน “เงินเฟ้อ” รอบใหม่ น้ำมันชักไม่ค่อยแพงแล้ว ส่วนก๊าซยังแพงไม่พอใช่ไหม งั้นปลุกอาหารให้แพงอีกทีละกัน ซ้ำมันกำลังมาในหน้าหนาว ซึ่งก๊าซกำลังจะกระฉูด แถมประจวบเหมาะ ต้น ธ.ค. ยุโรปจะคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซียอย่างเป็นทางการ
ดีล Black Sea Grain Initiative อุบัติขึ้นในเดือน ก.ค. (จากการประสานงานของสหประชาชาติ และตุรกี) ยอมเพื่อมนุษยธรรม มิให้ชาวโลกอดอยาก และมิให้เงินเฟ้อบรรลัยไปกว่านี้ เรือบรรทุกธัญญาหาร (ข้าวสาลี ข้าวโพด ฯลฯ) สามารถเดินทางออกจากท่าเรือของยูเครนในทะเลดำ โดยที่รัสเซียรับรองว่าจะไม่โจมตี ทั้งยังมีการนำทางมิให้ถูกกับดักทุ่นระเบิดใต้น้ำ ทำไปทำมา รัสเซียโวย ธัญญาหารส่วนใหญ่มิใช่ขนส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนา แต่จุดหมายมันคือประเทศพัฒนาแล้วต่างหาก ไม่เป็นไปตามข้อตกลง … ขู่ล้มดีล (แต่ยังแค่ขู่)
กระทั่งล่าสุด รัสเซียแถลง กองทัพเรือทะเลดำ ถูกโดรนระดมโจมตี ณ เมืองเซวาสโตโพล แห่งไครเมีย นับเป็นการฉวยโอกาส “ก่อการร้าย” ภายใต้การใช้ประโยชน์จาก “ดีล” ส่งออกธัญญาหาร ระบุด้วยว่ากองทัพอากาศยูเครน มีผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษช่วยชี้แนะ รัสเซียลั่น ยอมไม่ได้ เรือรัสเซียที่เฝ้าดูแลอำนวยการส่งออกธัญญาหาร กลับถูกถล่มเยี่ยงนี้ ฉะนั้นแล้ว นับจากนี้ รัสเซียจะ “ไม่รับประกันความปลอดภัย” ให้เรือขนส่งธัญญาหารอีกต่อไป
หลังจากบรรลุข้อตกลง เดือน ก.ค. ยูเครนส่งออกธัญญาหารจากท่าเรือทะเลดำ 1.7 ล้านตันในเดือน ส.ค. และ 3.9 ล้านตันในเดือน ก.ย. จุดนี้ บรรเทาภาวะ “ขาดตลาด” ทั้งในยุโรปและทั่วโลกได้อย่างยิ่ง ราคาข้าวสาลีก็เบาลงอย่างเห็นได้ชัด เดือน พ.ย. ลมหนาวกรรโชกมาครานี้ แว่วเสียงท้องร้องมาแต่ไกลแล้ว …