หลังจากที่ผู้นำรัสเซียให้คำมั่นไว้หลายประเด็น เกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และชนวนเหตุเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดสงครามระดับบิ๊ก เป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ ก็ต่อเมื่อ ตะวันตกและนาโต้พากันยัดข้อมูล และกล่าวหาว่ารัสเซียจะเลือกใช้แผนนี้ ยิ่งตะวันตกตีข่าวเท็จท้าทายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบีบให้รัสเซีย หันมาตัดสินใจเลือกทางนี้ เพื่อจัดการตะวันตกและนาโต้ให้เด็ดขาด
ทั้งนี้ปูติน ได้เปิดใจไว้ว่า เขาไม่เสียใจเลยกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร” และกล่าวหาตะวันตกปลุกปั่นสงคราม เล่นเกมนองเลือด สกปรกและเป็นอันตราย หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความโกลาหลไปทั่วโลก ประวัติศาสตร์ช่วงเวลาของการครองกิจการต่าง ๆ ของโลกของตะวันตก โดยไม่มีใครมาแบ่งแยก กำลังมาถึงจุดจบ” ปูตินบอกกับการประชุมวัลไดประจำปีในกรุงมอสโก “เรายืนอยู่ ณ ชายขอบประวัติศาสตร์ เบื้องหน้าอาจเป็นทศวรรษที่อันตรายที่สุด ไม่อาจคาดเดาได้ และในเวลาเดียวกันก็อาจเป็นทศวรรษที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และคำพูดสำคัญครั้งนี้ของปูตินคือ “เครมลินจะตอบโต้หากรู้สึกว่าถูกแบล็กเมล์ทางนิวเคลียร์โดยตะวันตก” นั่นหมายถึง จะตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์ทันที
ล่าสุดรัสเซียพบข้อมูลใหม่ ที่ชาติคว่ำบาตรอย่างสหรัฐฯ เตรียมวางแผนการแบบเงียบ ๆ อันเป็นสัญญาณว่าจะนำพาไปสู่การเกิดสงครามอย่างจริงจัง โดยทางการรัสเซีย ออกมาระบุการเร่งประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิค B61 ของสหรัฐฯ ตามฐานทัพต่าง ๆ ของนาโต้ในยุโรป เท่ากับเป็นการลดธรณีประตูสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และรัสเซียจะนำความเคลื่อนไหวดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาทบทวนแผนงานด้านการทหารของประเทศ
มอสโกมีอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิคที่สามารถใช้งานได้ราวๆ 2,000 ลูก ส่วนสหรัฐฯ มีอาวุธดังกล่าวราวๆ 200 ลูก ราวครึ่งหนึ่งในนั้นประจำการอยู่ตามฐานทัพต่าง ๆ ในอิตาลี เยอรมนี ตุรกี เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์
ท่ามกลางวิกฤตยูเครน เว็บไซต์ข่าว Politico รายงานเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ว่า สหรัฐฯ ได้แจ้งกับที่ประชุมลับของนาโต้ในเดือนนี้ ว่าพวกเขาจะเร่งประจำการอาวุธนิวเคลียร์ทางเทคนิค B61 เวอร์ชั่นปรังปรุง หรือ B61-12 และอาวุธใหม่นี้จะส่งถึงฐานทัพต่าง ๆ ในยุโรปในเดือนธันวาคม เร็วกว่าที่วางแผนไว้หลายเดือน
ด้านอเล็กซานเดอร์ กรุชโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ ว่า “เราไม่อาจเพิกเฉยแผนปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัย ระเบิดร่วงหล่นโดยอิสระเหล่านี้อยู่ในยุโรป”
ระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-12 ความยาว 3.65 เมตร สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ทำลายล้างต่ำมากกว่าเวอร์ชันไหนๆ ก่อนหน้านี้ แถมยังมีความแม่นยำมากกว่าเดิมและสามารถเจาะลงไปใต้พื้นดินอีกด้วย จากงานวิจัยของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกันที่เผยแพร่ในปี 20143
กรุชโก กล่าวว่า “สหรัฐฯ กำลังปรับปรุงมันให้มีความทันสมัย เพิ่มความแม่นยำของพวกมันและลดพลังงานของประจุนิวเคลียร์ ซึ่งก็คือ พวกเขาเปลี่ยนอาวุธเหล่านี้เป็นอาวุธที่ใช้ในสมรภูมิ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นการลดธรณีประตูของการใช้อาวุธนิวเคลียร์”
เพนตากอนบอกว่า พวกเขาไม่ขอพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับคลังแสงนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และสมมติฐานในบทความของเว็บไซต์ข่าว Politico นั้นไม่ถูกต้อง เนื่องจากอเมริกาวางแผนไว้นานแล้วเกี่ยวกับการปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ B61
“การปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ B61 ของสหรัฐฯ ดำเนินการมาหลายปีแล้ว และเป็นแผนสลับอาวุธเก่า ๆ อย่างปลอดภัยและด้วยความรับผิดชอบกับ B61-12 เวอร์ชันอัปเกรด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับปรุงให้ทันสมัยตามกำหนดและวางแผนไว้นานแล้ว”
ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โหมกระพือการเผชิญหน้าครั้งเลวร้ายระหว่างมอสโกกับตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาในปี 1962 ครั้งที่ 2 มหาอำนาจสงครามเย็นเฉียดใกล้ระเบิดสงครามนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นย้ำว่ารัสเซียจะปกป้องดินแดนของตนเองด้วยทุกวิถีทางที่มี ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ หากถูกโจมตี
จึงน่าจับตามองว่า การสั่งประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในหลายฐานทัพของนาโต้นั้น จะเป็นการพร้อมเปิดศึกระดับบิ๊กครั้งใหม่หรือไม่ เพราะนาโต้ได้ออกปฏิเสธเสมอว่า ไม่พร้อมที่จะสร้างความตึงเครียดใด ๆ กับรัสเซีย แต่ถ้าสหรัฐฯไฟเขียวให้นาโต้ต้องลุย ก็ถือว่าเป็นการวัดใจรอบใหม่ ว่าใครจะแน่กว่ากัน เพราะรัสเซียก็เตรียมพร้อมกำลังพล และอาวุธไว้รอนาโต้อย่างมหาศาล