ยุโรปแข่งกันหมดสภาพ! ปชช.ลำบากหลั่งน้ำตา นำม็อบป่วนรายวัน EU รอวันล่ม ย้ายเศรษฐกิจรุ่งเรืองมาเอเซียแทน

0

ยังคงมีเหตุการณ์ม็อบเดือด ประท้วงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศของสหภาพยุโรป ที่ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีการประท้วงรายวัน ทั้งฝรั่งเศส เยอรมัน สหรัฐฯ อิตาลี และอังกฤษ ด้วยความที่อากาศหนาวเหน็บกำลังมาเยือน ทำให้บรรดาประเทศยุโรป หนาวเย็นยะเยือก เพราะไร้พลังงานใช้ แล้วน่าเศร้าที่มีการคาดว่า ในช่วงคริสมาสต์ปีนี้ บางประเทศต้องงดประดับประดาไฟด้วย

Après le pass sanitaire, l'UE prépare un portefeuille numérique européen pour l'après-Covid

 

ล่าสุด มีรายงานว่า ขณะนี้ยุโรป แข่งกันร่อแร่! ม็อบโหมกระพือความวุ่นวาย ย้ายเศรษฐกิจรุ่งเรืองมาเอเซีย โดยในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นนี้ ระบุว่า ม็อบชาวเช็ค มากทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าตกใจ ในประเด็น “ยุติคว่ำบาตรรัสเซีย และรัฐบาลลาออกไป”

แกนนำม็อบตั้งเวทีไฮปาร์ค ปลุกระดมประชาชน โจมตีว่านักการเมืองเช็คสร้างปัญหาวิกฤตพลังงานของชาติ และยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรี เพตเตอร์ เฟียลา โปรสหรัฐ ต้องลาออกไป ไม่งั้นจะระดมผู้ประท้วงมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ

เยอรมนี มีม็อบตามเมืองต่าง ๆ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าในเดือน ต.ค.นี้ อัตราเงินเฟ้อกระโดดขึ้นเร็วมากคุมไม่อยู่อย่างน่าประหลาดใจไปอยู่ที่ 10.4% สูงที่สุด เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในรอบ 71 ปี ราคาพลังงานที่ซื้อจากสหรัฐ พุ่งขึ้นมากเกิน 43.0% , ค่าอาหารแพงขึ้น 20.3% และราคาจะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ถัดไปจากนี้ , ธนาคารกลางรัสเซีย (CBR) ระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศขยายขึ้น 3% หักปากกาเซียนทั้งโลกอย่างน่าตะลึง

ภายหลังจากฝ่ายระเบียบโลกเก่าขั้วเดียว ที่นำโดย สหรัฐ ยุโรป และบริวารราว 40 ชาติ คว่ำบาตรสินค้าโภคภัณฑ์จำเป็นสำหรับภาคอุตสาหกรรม และการดำรงชีพจากรัสเซีย ฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วที่เป็นธรรม มาได้ 7 เดือน ขณะนี้เกิดบูมเบอแรงย้อนกลับผลกระทบสุดขั้วกระแทกเศรษฐกิจฝ่ายคว่ำบาตรข้างเดียวจนเกิดวิกฤติ

การเติบโตของ GDP โลกจากคาดการณ์ไว้เดิม 2% ถูกปรับลดลงเหลือเพียง 0.6% เท่านั้น ผลกระทบร้ายแรงนี้จะเกิดกับชาติตะวันตกเท่านั้น โดยคาดว่าสหรัฐ จะมี GDP ปีนี้ เพียง 1.2% เยอรมนี ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา GDP เพียงแค่ 0.3% ทรุดลงมากที่สุดในรอบ 71 ปี และปีหน้าจะหนักสุดถึงติดลบ 0.7%

ทวีปยุโรป กลายเป็นหลุมดำฉุดรั้งการขยายตัวการเจริญเติบโตเศรษฐกิจโลกมากที่สุด จากการคว่ำบาตรพลังงานราคาถูกรัสเซียแล้วต้องเผชิญวิกฤติค่าพลังงานแพงจากสหรัฐแทน นี่คือบทพิสูจน์ความจริงว่า “พลังงานมีทิศทางไปทางไหนความเจริญก็ย้ายไปทางนั้น” เมื่อยุโรปไม่อยากได้พลังงานราคาถูกรัสเซีย อัตรา GDP ยุโรปก็ตกฮวบจนใกล้ศูนย์ และเมื่อทิศทางพลังงานรัสเซียเปลี่ยนมาให้พันธมิตรเอเซีย อัตรา GDP ก็ย้ายมาขยายตัวทวีปนี้แทน

เมื่อความเจริญรุ่งเรืองกินดีอยู่ดียุโรปหายไป คนที่รู้สึกถึงผลกระทบนั้นได้คือ “ชาวยุโรปเอง” ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง พวกเขาจึงออกมาลงถนนประท้วงแทบทุกวัน แรก ๆ ก็ประท้วงเรื่องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือค่าครองชีพ เพิ่มอัตราค่าจ้างให้ทันเทียบเท่ากับอัตราเงินเฟ้อ แต่ปัจจุบันเป้าหมายการประท้วงได้เปลี่ยนแปลงไปเป็น “ขับไล่รัฐบาลตนเองที่โปรสหรัฐ” สาธารณรัฐเช็คนั้น เคยซื้อไฟฟ้าจากยูเครน แต่ปัจจุบันยูเครน ได้แจ้งยกเลิกขายไฟฟ้าให้ไปแล้ว ทำให้ระบบพลังงานไฟฟ้าของเช็ค ยิ่งย่ำแย่วิกฤติหนักขึ้นไปอีก ท่ามกลางภัยหนาวคืบคลานเข้ามา

ในตอนนี้จำนวนม็อบไล่รัฐบาลเช็ค จึงมากทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่าตกใจในกรุงปราก จำนวนม็อบมากจนล้นถนนกลางเมือง และถ้ารัฐบาลยังดื้อไม่ทำตามที่พวกเขาต้องการคือ “ยุติคว่ำบาตรรัสเซีย และลาออกไป” ก็สุ่มเสี่ยงจะมีเหตุบานปลายรุนแรงแทรกซ้อนตามมา

อีกทั้งเงินเฟ้อสูงที่สุด เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในรอบ 71 ปีนับตั้งแต่ปี 1951 เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ซื้อจากสหรัฐ พุ่งขึ้นมากเกิน 43.0% , ค่าอาหารแพงขึ้น 20.3% และราคาจะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ถัดไปจากนี้ ทำให้ชาวเยอรมนี จะต้องหาเงินเพิ่มและเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นราคาพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด ผู้มีรายได้น้อยต้องใช้จ่ายต่อเดือนมากขึ้นไปกับพลังงาน ค่าอาหาร กับสินค้าจำเป็นที่ราคาแพงขึ้นเป็นพิเศษ ในฤดูหนาวนี้ราคาพลังงานที่สูงจัดจะกัดเซาะกำลังซื้อของผู้บริโภค แม้รัฐบาลจะเพิ่งกู้เงินมา 2 แสนล้านยูโร เยียวยาชดเชยประชาชน แต่ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

เงินมหาศาลนี้ก็จะเหมือน “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” หายไปราคาก๊าซจากสหรัฐ และค่าชดเชยราคาไฟฟ้าในที่สุด โดยไม่เกิดประโยชน์ใดเลย และต้องกู้หนี้ก้อนใหม่เพิ่มไปเรื่อย ๆ จนหมดสภาพชำระหนี้

สีน้ำเงิน, สีเหลือง, ติดดาวพิมพ์ธงประเทศ, ยุโรป, ธง, ดาว, ชาวยุโรป, ระหว่างประเทศ | Piqsels

สำหรับไทยนั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดว่าเศรษฐกิจ GDP จะโตขยายตัวขึ้นกว่า 3.1% จึงมีการย้ายเงินลงทุนจากชาติตะวันตกมายังไทยด้านเทคโนโลยีไฮเทคมูลค่าสูง ผู้ให้บริการ​ Cloud รายใหญ่ของโลก คือ Amazon (ราว 190,000 ล้านบาท) , Microsoft , Google จากสหรัฐ และ Huawei , Alibaba ของจีน ไทยรักทุกคน ไม่คว่ำบาตรใคร ขอเป็นกลางงดออกเสียง..ชนะแน่นอน