กาฬทวีประอุ!? ผู้นำอาฟริกาใต้ตบเมกาหน้าหงาย แพร่ข่าวก่อการร้ายทำลายศก. เสี้ยมหนักกลัวแพ้โลกขั้วใหม่

0

ประธานาธิบดีรามาโฟซาของแอฟริกาใต้ประณามสหรัฐ ให้สถานทูตออกคำเตือนคนอเมริกัน ถึงการโจมตีด้วยก่อการร้ายในเมืองที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอาฟริกาใต้ สร้างความหวาดกลัว ตื่นตระหนกและโชคร้ายทางเศรษฐกิจแก่ประเทศอย่างจงใจ พฤติกรรมเช่นนี้ทำบ่อยซ้ำซาก รวมทั้งพันธมิตรสหรัฐทั้งอังกฤษ แคนาดาและออสเตรเลียก็ประกาศเตือนภัยก่อการร้ายกับประเทศเพื่อนบ้านไนจีเรียด้วย ข้ามหัวรัฐบาลในอาฟริกาใต้หน้าตาเฉย

วันที่ ๒๘ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและอัลอะราบิยารายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในแอฟริกาใต้ได้โพสต์คำเตือนซึ่งระบุว่าถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในประเทศ อาจเกิดขึ้นในวันที่ ๒๙ ตุลาคมนี้ ในย่านที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งของโจฮันเนสเบิร์ก สถานทูตแนะนำให้คนอเมริกันอยู่ห่างจากฝูงชนจำนวนมากและการชุมนุมในที่สาธารณะอื่นๆ

ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ แสดงความเสียใจและประณามการตัดสินใจที่ “โชคร้าย” ของสถานทูตสหรัฐฯ ที่ออกคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายช่วงสุดสัปดาห์ในประเทศ โดยไม่ได้ปรึกษาหารือกับฝ่ายบริหารของเขาก่อนเลย

เขากล่าวว่า “น่าเสียดายที่สหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนแบบนั้นโดยไม่ได้พูดคุยกับเรา” “การแจ้งเตือนทุกรูปแบบจะมาจากรัฐบาลของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และน่าเสียดายที่รัฐบาลอื่นเที่ยวออกเตือนภัยคุกคาม ส่งความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนของเราโดยพละการ”

เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ และกลุ่มร้านค้าหรู อาคารสำนักงานสูงและธนาคารถูกระบุเป็นเป้าหมาย 

ผู้นำอาฟริกาฯให้สัมภาษณ์ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ซึ่งกำลังมาเยือนประเทศนี้ เขากล่าวว่า “รัฐบาลทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบและพิจารณาข้อความนี้ที่มาจากสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด ไม่ได้นิ่งนอนใจ”

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์ในนามของรัฐบาลสาธารณรัฐ โดยชี้แจงต่อประชาชนซึ่งตื่นตกใจ ต่อการกระทำของสถานทูตสหรัฐฯโดยระบุว่า  “ทางการจับตาการแจ้งเตือนการก่อการร้ายของคณะทูตสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการสื่อสารมาตรฐานของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อพลเมืองของตน

รัฐบาลเน้นย้ำว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของแอฟริกาใต้ได้รับมอบหมายให้ดูแลให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่บ้านของตน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกำลังจับตาดูอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน ประเทศ หรืออำนาจอธิปไตยของเรา

ทั้งนี้ภัยคุกคามทุกชนิดได้รับการประเมินอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของทุกคน” “หากมีความจำเป็นในสถานการณ์ฉุกเฉิน  รัฐบาลแอฟริกาใต้จะเป็นคนแรกที่แจ้งให้สาธารณชนทราบเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ใกล้จะเกิดขึ้นในทันที”

เรียกว่าสับหน้ากันอย่างเป็นทางการกลายๆ ถึงความไร้มารยาทของสถานทูตอเมริกา คุ้นๆว่าเกิดในหลายประเทศ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการออกคำเตือนหลายครั้งจากสหรัฐฯเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ถูกกล่าวหาในแอฟริกาใต้ แม้ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็ตามสร้างความสับสนวุ่นวายในหมู่ประชาชนเสมอ

การแจ้งเตือนการก่อการร้ายที่คล้ายกันสำหรับไนจีเรียได้ออกโดยสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอีก ๓ ประเทศคือ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ ในเมืองหลวงของประเทศ ทำให้บุคลากรทางการทูตของประเทศที่เกี่ยวข้องกำลังถูกย้าย หลังไม่พบแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯอ้างว่า “รัฐบาลได้รับข้อมูลว่าผู้ก่อการร้ายอาจกำลังวางแผนที่จะโจมตีโดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนจำนวนมากในสถานที่ที่ไม่ระบุชื่อในพื้นที่แซนด์ตัน ของโจฮันเนสเบิร์ก” มีการแชร์การแจ้งเตือนอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดียและกลุ่ม WhatsApp ทั่วโจฮันเนสเบิร์กจนชาวบ้านแตกตื่นทั่ว

ด้านการแจ้งเตือนไนจีเรีย สถานทูตสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมายังได้ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัยในกรุงอาบูจา เมืองหลวงของไนจีเรีย โดยเรียกร้องให้พลเมืองอเมริกันในไนจีเรียหลีกเลี่ยง “การเดินทางที่ไม่จำเป็น” และไม่ปะปนฝูงชน การแจ้งเตือนพร้อมกันของประเทศตะวันตกส่งผลเกิดความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง

ช่วงนี้แอฟริกาใต้กำลังช่วยเหลือโมซัมบิกที่อยู่ใกล้เคียงกัน ต่อสู้กับกลุ่มกบฏอิสลามิสต์ และได้ส่งทหารไปที่นั่นแล้วมากกว่า ๑,๐๐๐ นาย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

 

หลังการเตือนของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรเรื่องก่อการร้ายบ่อยขึ้นตั้งแต่ปี ๒๐๑๖  รัฐบาลของแอฟริกาใต้แสดงปฏิกิริยาอย่างโกรธเคืองต่อพฤติกรรมของตะวันตก ที่พยายามสร้างภาพว่ารัฐบาลอาฟริกาใต้ไร้ความสามารถในการปกป้องประชาชน ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนก และภาวะวุ่นวายแตกตื่นในที่สาธารณะโดยอาศัยแหล่งข่าวที่น่าสงสัยเพียงแหล่งเดียว และทำแบบนี้ซ้ำซาก จนทางการต้องออกแถลงการณ์ฉีกหน้ากันโจ่งแจ้งแบบนี้  เรียกว่าเมื่อสหรัฐไม่มีมารยาทอาฟริกาใต้ฯก็ขอใช้วิธีเดียวกันบ้างแบบสมน้ำสมเนื้อ

มูลเหตุการปลุกผีก่อการร้าย มาจากการที่รัฐบาลแอฟริกาใต้แสดงจุดยืนอย่างเด่นชัด ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย และยังสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ร่วมโครงการพัฒนาBRI ของจีน เท่ากับเมินคำสั่งขาใหญ่ เลือกข้างคู่แข่งของสหรัฐ จับตาความโกลาหลวุ่นวายในอาฟริกาใต้ ส่อเค้าจะปะทุมากขึ้นเมื่อตัดสินใจปลดแอกจากการครอบงำของอเมริกาและตะวันตก???