ยูเครนเริ่มดิ้นหาพวก! ยุ “อิสราเอล” เลิกเป็นกลาง อย่าปล่อยคู่อริ “อิหร่าน” หนุนช่วยรัสเซียฝ่ายเดียว

หลังจากที่ยูเครนออกมาเปิดเผยผ่านสื่อ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซียที่ระบุว่า กองกำลังยูเครนอาจจุดชนวนอุปกรณ์กัมมันตภาพรังสี พร้อมกับโต้กลับว่า เป็นรัสเซียมากกว่าจะมีแผนจะทำสิ่งนั้นโดยกล่าวหายูเครนเป็นคนทำ

 

ดีมีโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ทวีตล่าสุดว่า รัสเซียโกหกว่ายูเครนวางแผนใช้ Dirty bomb หรือ ระเบิดสกปรก ซึ่งเป็นระเบิดนิวเคลียร์อัดประจุฝุ่นกัมมันตรังสี เพื่อโจมตีรัสเซีย นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นอันตรายมาก ขณะที่โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวเมื่อคืนวันที่ 23 ต.ค. ว่า รัสเซียเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่สามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้

“หากรัสเซียโทรมาและบอกว่ายูเครนกำลังเตรียมอะไรบางอย่าง นั่นหมายถึงว่า รัสเซียได้เตรียมทั้งหมดนี้ไว้แล้ว” เซเลนสกีกล่าว “ฉันเชื่อว่าตอนนี้โลกควรตอบสนองในหนักที่สุด”

ล่าสุดยูเครนก็ยังไม่หยุดท่าที ที่จะยั่วโมโหรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องอิสราเอลให้ร่วมต่อต้านรัสเซีย และเน้นย้ำข้อเรียกร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศจากอิสราเอล “นี่ยังไม่ใช่เวลาที่ประเทศของคุณจะเลือกว่าใครที่คุณจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างอีกงั้นหรือ?” เซเลนสกีกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอ กับที่ประชุมหนึ่งซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ Haaretz ของอิสราเอล

“พวกเขาจะร่วมกับโลกประชาธิปไตย ที่กำลังยืนหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามความอยู่รอดของโลกประชาธิปไตยหรือไม่? หรือจะเลือกยืนอยู่กับพวกที่แสร้งทำไม่เห็นภัยคุกคามของรัสเซีย แม้กระทั่งว่าความเสียหายของการคุกคามอย่างไม่ลดละ คือการทำลายล้างความมั่นคงของโลกโดยสิ้นเชิง”

อิสราเอลประณามการรุกรานของรัสเซีย แต่อีกด้านหนึ่งพวกเขาก็กังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับรัสเซียเช่นกัน เนื่องจากมอสโกเป็นคนกลางที่ทรงอิทธิพลในประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขาอย่างซีเรีย ดินแดนที่กองกำลังอิสราเอลโจมตีกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่อิหร่านบ่อยครั้ง และพวกเขาต้องการให้รัสเซียรับประกันความเป็นอยู่ที่ดีแก่ชาวยิว

นอกจากเซเลนสกีแล้ว อิสราเอลยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับจุดยืนของพวกเขาจากวอชิงตันเช่นกัน โดยไมค์ เทอร์เนอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากรีพับลิกัน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางไปยูเครน ว่าโดยส่วนตัวแล้ว เขารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของอิสราเอลเป็นอย่างมาก

“นับตั้งแต่บอสเนีย เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน การเข่นฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในระดับเลวร้ายเช่นนี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และนี่คือเวลาสำหรับทุกประเทศประชาธิปไตยที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ต้องออกมายืนหยัดร่วมกันต่อต้านความโหดร้ายป่าเถื่อนลักษณะนี้” เทอร์เนอร์ กล่าว ทั้งนี้ เขายังดำรงตำแหน่งระดับสูงในคณะกรรมาธิการข่าวกรองและอาวุธของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย

อิสราเอล ซึ่งจะเลือกรัฐบาลใหม่ในศึกเลือกตั้งวันที่ 1 พฤศจิกายน จำกัดความช่วยเหลือยูเครน เพียงแค่มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอุปกรณ์ป้องกันตัวเท่านั้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาเสนอมอบความช่วยเหลือยูเครน ในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยโจมตีทางอากาศสำหรับพลเรือน

เซเลนสกี บอกว่าความช่วยเหลือดังกล่าวไม่เพียงพอ และร้องขอให้พวกผู้นำอิสราเอลพิจารณาทบทวนส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศมาช่วยเหลือเช่นกัน ทั้งนี้ เขาเคยส่งเสียงวิงวอนแบบเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา