เดินหน้าลุย!! รัสเซียเพิ่มสต็อกอาวุธ เร่งปิดจ๊อบหน้าหนาวทำเมกา-เคียฟพล่าน ขู่นาโต้-อิสราเอลช่วยเซเลนสกี้ด่วน

0

รัสเซียตอกย้ำการเตรียมใช้เดอร์ตี้บอมบ์ของเคียฟเพื่อเอาชนะในสงครามตัวแทนของยูเครน กลาโหมรัสเซียยกหูคุยกับลอนดอนและวอชิงตัน แต่ทั้งสองแห่งยังถือหางยูเครนเต็มที่ พร้อมยื่นเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้สอบสวนคาดว่าจะประชุมด่วนเรื่องนี้ไม่นาน  ครั้งนี้UNSCรับเรื่องเพราะยูเครนก็กล่าวหาว่ามอสโกว์จะใข้เดอร์ตี้บอมบ์ด้วย อย่างน้อยก็ดักทางไม่ให้เกิดโศกนาฎกรรมกับประชาชนและทหารที่รัสเซียให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก 

ล่าสุดเมดเวเดฟ ได้ตรวจโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์เตรียมเพิ่มการผลิตอาวุธอย่างมีนัยสำคัญ ฟาดปากเมกาและตะวันตกที่แพร่ข่าวเท็จว่ารัสเซียแพ้เพราะคลังอาวุธเกลี้ยงต้องสั่งซื้อจากพันธมิตร ข้อเท็จจริงคือพัฒนาเองผลิตเองใช้รบเองนักเลงพอ

วันที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ(Dmitry Medvedev) อดีตปธน.รัสเซียโพสต์ภาพตรวจการผลิตรถถังและอาวุธยุทโธปกรณ์

เมดเวเดฟกล่าวว่า “การผลิตรถถัง ขีปนาวุธความเที่ยงตรงสูง โดรน และปืนใหญ่กำลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทุกประเภท” เขาแถลงสื่อหลังจากตรวจสอบสายการผลิตของโรงงานผลิตรถถังอูรัลวากอนซาวอด (Uralvagonzavod) บริษัทผู้ผลิตอาวุธชั้นนำของรัสเซีย  เป็นการโต้กลับฝั่งตะวันตกที่แพร่ข่าวว่าอาวุธรัสเซียกำลังหมดสต็อก

 

ความจริงมันตรงกันข้าม ยูเครนอาศัยความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปและที่อื่น ๆ ในช่วงกลางเดือนกันยายน เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก หัวหน้านาโต้ยอมรับกับซีเอ็นเอ็นว่า สมาชิกของกลุ่มได้ใช้คลังอาวุธของตนเองจนหมดอย่างมีนัยสำคัญ และเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการผลิตอาวุธ โดยเฉพาะสหรัฐฯและเยอรมนี ยังลังเลที่จะจัดหาเกราะหนักให้กับเคียฟ เช่น รถถังต่อสู้ แม้ว่ารัฐบาลยูเครนจะร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในทางการทูต รมว.ต่างประเทศ เซอร์เก ลาฟรอฟยืนยันว่า “ปัญหายูเครนเตรียมใช้เดอร์ตี้บอมบ์ จะมีการหารือในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันนี้หรือพรุ่งนี้” 

เขาเน้นว่ารัสเซียมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ยูเครนอาจกำลังวางแผนยั่วยุที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระเบิดสกปรกต่อประชาชนยูเครน และป้ายสีว่ารัสเซียเป็นผู้ทำ

“ข้อมูลรายละเอียดที่ระบุถึงสถาบันที่อาจได้รับมอบหมายเพื่อจุดประสงค์นี้ถูกส่งผ่านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในระหว่างการติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และตุรกี และจะมีการติดต่อเพิ่มเติมโดยกระทรวงกลาโหม”

ในทางการทหาร มอสโกว์ได้เตือนวอชิงตันและลอนดอนกลายๆว่ารู้ทัน โดยยกหูหารือเกี่ยวกับการคุกคามของเคียฟที่อาจใช้”ระเบิดสกปรก” คุยกับระดับหัวหน้าเสนาธิการทั่วไป กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศรัสเซีย พล.อ.วาเลรี เกอราซิมอฟ กล่าวถึงข้อกังวลของประเทศของเขาในการโทรศัพท์คุยกับนายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ หลังจากที่ได้สนทนาในลักษณะเดียวกันนี้กับพลเรือโท เซอร์ โทนี่ ราดากิน รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ 

กระทรวงกลาโหมของอังกฤษกล่าวว่าการโทรศัพท์ระหว่างราดาคินและเจอราซิมอฟเกิดขึ้น“ตามคำร้องขอของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย” และเสริมว่าอังกฤษปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่ายูเครนกำลังวางแผนดำเนินการเพื่อยกระดับความขัดแย้ง และย้ำว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไป วอชิงตันก็ตอบน้ำเสียงเดียวกัน

การหยั่งเสียงกองทัพสหรัฐและอังกฤษผู้สนับสนุนหลักของยูเครนเท่ากับเป็นการยืนยันว่า ไม่ว่าตะวันตกจะสนใจที่จะห้ามปรามหรือเป็นผู้สนับสนุนเองก็ตาม  การตอบโต้ของรัสเซียย่อมชอบธรรมและเหมาะสม ทำให้รัสเซียไม่ต้องลังเลใจ เพราะการทูตประนีประนอมได้แต่การรบต้องแหลกกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น

สภาพของยูเครน กำลังเผชิญกับฤดูหนาวที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งจะมีสัญญาณไฟดับอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ ยูริ วิเตรนโก(Yuriy Vitrenko) หัวหน้าของนาฟโตแก๊ซ (Naftogaz) บริษัทก๊าซ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของยูเครนยืนยัน สวนทางผู้บริหารฝ่ายเคียฟออกมาให้สัมภาษณ์ว่ายูเครนมีน้ำมันสำรองพอใช้ตลอดหน้าหนาว แบบไม่ได้เตี้ยมกันไว้ก่อน

วิเตรนโกให้สัมภาษณ์กับแฮนดับแบลตต์( Handelsblatt) สื่อเยอรมันซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา  อ้างว่า“โรงไฟฟ้าประมาณ ๔๐% ถูกทำลาย”จากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียครั้งล่าสุด  เขากล่าวว่า“มันจะเป็นฤดูหนาวที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา เราคาดว่าไฟฟ้าดับอย่างต่อเนื่องและปัญหาเกี่ยวกับความร้อนจะดำเนินต่อไป” หัวหน้านาฟโตแก๊ซยอมรับว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันปัญหาได้ ๑๐๐%”และประเทศต้องการความช่วยเหลือจากผู้สนับสนุน

ทั้งปธน.โจ ไบเดนและเซเลนสกี้ออกมาโวยวาย การถล่มโรงไฟฟ้า-โรงงานทหารและระบบขนส่งของเคียฟหลายภูมิภาคในยูเครน และเร่งเร้าให้รัฐสภาฯสหรัฐจัดงบฯและอาวุธเพิ่มแก่ยูเครนอย่างรัวๆ แม้ว่าอิสราเอลจะออกมาปฏิเสธไม่ส่งระบบต่อต้านอากาศยานและอาวุธชนิดอื่นๆให้เคียฟอีกก็ตาม

งานนี้ดูท่ารัสเซียจะจัดหนักกว่าที่หนักอยู่แล้ว รอดูนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษจะซ้ำเติมหรือจะยื่นหน้าออกมาอุ้มยูเครนให้รบตามแนวทางของอดีตนายกฯทั้งสองในลอนดอน!??