ผงาด!?’กล้าสู้ กล้าเอาชนะ’ วาทะสี จิ้นผิงหลังพรรคประทับตราผู้นำตลอดชีพ ฝ่าดราม่าหูจิ่นเทาโปลิศบูโรแบ็คผู้นำพรึ่บ

0

ในที่สุดการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย ผลออกมาไม่ผิดโผที่สี จิ้นผิงคุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งทางการเมืองและการทหาร ในการปราศัยปิดประชุมสีประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า “เราต้องยังคงมั่นใจในประวัติศาสตร์ของเรา แสดงความคิดริเริ่มทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่กว่า และมีความกล้าที่จะต่อสู้และกล้าหาญที่จะชนะ”  พร้อมย้ำว่าจีนแน่วแน่ในการปฏิรูปและเปิดประเทศ พร้อมทั้งสร้างกองทัพปลดแอกประชาชนให้เกรียงไกร เป็นหลักประกันความมั่นคงของจีนและภูมิภาคของโลก ท่ามกลางกระแสข่าวตะวันตกดราม่าประเด็นหู จิ่นเทาถูกเชิญออกนอกห้องประชุม ซึ่งทางการจีนชี้แจงว่าหูมีอาการป่วยเท่านั้นและ สมาชิกผู้อาวุโสอายุมากหลายท่านถูกเชิญออกจากห้องประชุมเช่นกัน

วันที่ ๒๔ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวซินหัวและโกลบัลไทมส์รายงานว่า “สี จิ้นผิง” ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ชุดที่ ๒๐ ในการประชุมเต็มคณะ ครั้งที่ ๑ ของคณะกรรมการกลางพรรค ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีสี จิ้นผิง เป็นประธาน และมีสมาชิกของคณะกรรมการกลางพรรค ชุดที่ ๒๐ เข้าร่วม ๒๐๓ คน และสมาชิกสำรอง ๑๖๘ คน ก่อนหน้านี้ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิปดีจีนสมัยที่ ๓

ในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนหลังปิดการประชุมฯผู้นำจีนกล่าวย้ำ หลักค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติโดยเน้นความเป็นธรรมและความยุติธรรม เป็นแนวทางการทูตที่จีนยืนหยัดมาตลอดการนำของสี จิ้นผิง

การประชุมครั้งนี้ยังได้ประกาศรายชื่อสมาชิกคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง โดยสี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นอกจากนี้ ยังมีการเลือกสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคที่รู้จักกันว่า โปลิศบุโร ซึ่งมีการรับรองสมาชิกสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรค (Central Committee Secretariat) 

สมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรค ชุดที่ ๒๐ ที่ได้รับเลือกในการประชุมมีจำนวนทั้งสิ้น ๗ คน นอกจากสี จิ้นผิงแล้ว ได้แก่

หลี่ เฉียง วัย๖๓ ปี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้มีบทบาทดูแลนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์จากการระบาดของโควิด-19 และได้รับการคาดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนต่อไป

จ้าว เล่อจี้ วัย ๖๕ ปี ผู้กุมบังเหียนการปราบปรามการทุจริตคนปัจจุบัน และการปลูกฝังความจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดเดิม

หวัง ฮู่หนิง วัย ๖๗ ปี หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในพรรคคอมมิวนิสต์จีน และขับเคลื่อนนโยบายธรรมาภิบาลทางอินเทอร์เน็ตของจีน เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดเดิม

ไช่ ฉี วัย ๖๖ ปี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำปักกิ่ง ผู้มีผลงานโดดเด่นจากการความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ๒๐๒๒ ณ กรุงปักกิ่ง ภายใต้มาตรการโควิดที่เข้มงวด

ติง เซวียเสียง วัย ปี ไม่เคยรับตำแหน่งผู้นำในมณฑลใด เป็นกำลังสำคัญในงานมวลชน มักปรากฏภาพเขาอยู่เคียงข้างสี ระหว่างการเยือนพื้นที่ต่างๆ ในจีน

หลี่ ซี วัย ๖๖ ปี ผู้ประสบความสำเร็จในการบูรณาการจุดแข็งและความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้งและเมืองฮ่องกง

เป็นการวางตัวบุคคลที่จะมีอำนาจสูงสุดในการกำหนดนโยบายของจีน รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการบริหารประเทศตลอด ๕ ปีของสี จิ้นผิง นักวิเคราะห์ตะวันตกมองว่า บุคคลในคณะโปลิศบุโร ชุดใหม่ ล้วนเป็นบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจากปธน.สี จิ้นผิง เนื่องจากทำงานร่วมกันมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะนายหลี่ เฉียง ที่คาดว่าจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่แทน นายหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งไม่มีรายชื่อในคณะกรรมการกลางชุดที่ ๒๐ ด้วย

แต่นักวิเคราะห์จีนมองว่สกล่าวว่า ทีมใหม่ของพรรคที่มีแกนนำที่เข้มแข็ง แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีอันแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญและองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับพรรคในการจัดการความท้าทายที่ซับซ้อนและบรรลุภารกิจอันยิ่งใหญ่ใหม่ ๆ ในอนาคต และเพื่อต้านทาน “พายุที่อันตราย” ในความปั่นป่วนโลกด้วยกัน

จับตาการเมืองโลก นับจากนี้การเมืองเดือด เศรษฐกิจร้อน คงไม่เปลี่ยนแปลงมีแต่จะเข้มข้นขึ้น เมื่อสหรัฐและพันธมิตรปักหมุดต้านจีนอย่างเอาการเอาการ นั่นจะยิ่งผลักดันให้จีนและรัสเซียแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทางด้านเศรษฐกิจมีแต่รบและลุยเท่านั้นเพราะเมกาเปิดเกมส์ก่อน ทางการทหารสีเน้นชัด จะยกระดับกองทัพจีนให้ยิ่งใหญ่ในระดับมาตรฐานโลก ทั้งยังประกาศคำมั่น ประเทศเข้มแข็งต้องมีกองทัพที่เข้มแข็ง แต่จะบู๊แบบไหนต้องตามติด การประชุมจี-๒๐ ที่เมกา-บริวารข่มขู่ท้าทายด้วยการซ้อมรบใหญ่ใกล้ไต้หวัน???