เจาะลึกแผนเด็ด หนทางพิชิตศึกของรัสเซีย อาจปิดเกมจบในคืนเดียว ปูตินเคลื่อนทัพแบบเหนือชั้น แค่สั่งการ ยูเครนก็ไม่รอดแล้ว

0

หลังจากที่ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกช่วยยับยั้งรัสเซียไม่ให้ระเบิดทำลายเขื่อนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ภาคใต้ยูเครนต้องเผชิญ “น้ำท่วม” ครั้งใหญ่ ขณะที่กองกำลังเคียฟเตรียมรุกคืบขับไล่ทหารรัสเซียออกจากภูมิภาคเคียร์ซอน โดยเซเลนสกี แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้วางทุ่นระเบิดเอาไว้ภายในเขื่อนโนวาคาคอฟกา (Nova Kakhovka ) ซึ่งกั้นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีแผนที่จะระเบิดทำลายมันทิ้ง “ตอนนี้ทุกคนทั่วโลกต้องร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียก่อการร้ายครั้งใหม่ เพราะการทำลายเขื่อนแห่งนี้ย่อมหมายถึงหายนะในวงกว้าง”

ทั้งนี้รัสเซียได้เล็งหาหนทางที่จะจบศึกได้แล้ว แต่ยังติดอยู่ที่ว่า ปูตินไม่ต้องการให้ประชาชนยูเครนเดือดร้อนไปด้วย โดยในเพจเฟซบุ๊ก Around the war world รอบโลกสงคราม ได้รายงานว่า เคียฟเตรียมเปิดศึกที่แม่น้ำนีเปอร์

แม่น้ำนีเปอร์ ลุ่มน้ำเส้นเลือดใหญ่ ไหลผ่าน 3 ประเทศ ในทวีปยุโรป

จำนวนการโจมตีที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและพลังงานของยูเครนเริ่มลดลง มีรายงานการระเบิดในคาร์คีฟและซาโปโรซี หนึ่งในเป้าหมายคือโรงงาน Kommunar ในคาร์คีฟ ซึ่งมีส่วนประกอบของคอมเพล็กซ์ขีปนาวุธเนปจูน

กองทัพยูเครนกลับมาตอบโต้โดยมีเป้าหมายไปที่การโจมตีพลเรือนในภูมิภาคเคอร์ซอน ซึ่งหลบหนีจากการรุกของเคียฟ และได้ย้ายไปที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำนีเปอร์ อันเป็นผลมาจากการโจมตีบนเรือข้ามฟากใกล้สะพาน Antonov พลเรือน 4 คนเสียชีวิตและอีกหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ

กองทัพยูเครนอ้าง ยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียได้ 3,000 ตร.กม. - BBC News ไทย

ยูเครนโจมตีพลเรือนด้วย HIMARS MLRS ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกกองกำลังป้องกันทางอากาศของรัสเซียสกัดกั้น HIMARS เป็นอาวุธขั้นสูงที่มีความแม่นยำสูงมันแสดงถึงความจงใจในการโจมตีเป้าหมายพลเรือน

กองทัพยูเครนยังปิดล้อมโรงไฟฟ้าพลังน้ำซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Novaya Kakhovka 5 กิโลเมตร มีรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธอย่างน้อยห้าครั้งที่โรงไฟฟ้า หากยูเครนทำลายประตูระบายน้ำ น้ำจะพุ่งลงมาและสร้างคลื่นยักษ์ที่มีความสูงซึ่งจะท่วมพื้นที่มากกว่าห้ากิโลเมตรและจะถึง Kherson ในเวลาเพียงสองชั่วโมง ความเสียหายที่เกิดกับเขื่อนจะทำลายทางข้ามของกองทัพรัสเซีย และตัดกลุ่มรัสเซียขนาดใหญ่บนฝั่งตะวันตก

เคียฟยังเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่ากองทัพรัสเซียมีทุกวิถีทางที่จำเป็นในการทำลายสถานีไฟฟ้าพลังน้ำของยูเครนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงเพื่อตอบโต้ แต่การกระทำดังกล่าวจะมีคนต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่า 10 ล้านคน และทำให้รัสเซียสามารถชนะสงครามได้ในวันเดียวแต่พวกเขาเลือกที่จะยังไม่ทำ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ยูเครนกำลังวิตกอย่างหนัก ถึงการไม่มีไฟฟ้าใช้ หากรัสเซียเลือกเดินตามแผนนี้ เพื่อจบศึก ก็ทำให้ยูเครนไม่มีหนทางรอดเลย แต่หากยังลากยาวให้เกิดสงครามใหญ่ อาวุธรัสเซียก็ยังมีอีกเพียบ จึงอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ปูตินยังไม่ตัดสินใจจบศึก เพราะประชาชนยูเครนจะต้องรับเคราะห์ จากการตัดสินใจของผู้นำ จึงน่าติดตามต่อว่า รัสเซียจะเลือกเอาคืนยูเครนในรูปแบบใดต่อไป