เบื้องหลังจลาจลกรีซ! ผู้นำคนรุ่นใหม่กู้เงินซื้ออาวุธสหรัฐ ถูกยุยึดเรือน้ำมันรัสเซีย แถมโดนอังกฤษเท!!

0

จากที่วันนี้ 22 ตุลาคม 2565 Blockdit World Update ได้รายงานเหตุการณ์ชุมนุมที่กรีซ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวที่ชวนติดตาม โดยพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับชาติยุโรป ที่ส่งผลต่อกรีซ รวมทั้งผู้นำประเทศที่น่านำมาเป็นบทเรียนให้กับหลายๆประเทศ

ทั้งนี้โดย Blockdit World Update โพสต์ข้อมูลระบุที่มาจาก RT news ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงสำคัญที่เผยแพร่ไว้ว่า “ปี 2012 กรีซ ได้ผู้นำคนรุ่นใหม่อายุน้อย ขาดประสบการณ์ ผลงานไม่มี เซลฟีลูกเดียว และฉ้อฉล กู้ยืมต่างชาติ มาซื้ออาวุธจากสหรัฐ จนหนี้สินรุมเร้า มักง่าย ผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ปี 2015 กรีซกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศแรกที่ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้รวม 323,000 ล้านยูโร (11 ล้านล้านบาทในขณะนั้น) ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF รัฐบาลกรีซตกอยู่ในภาวะล้มละลายเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหนี้

ชาวกรีซเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ไปเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอถอนเงินจากธนาคาร แต่ก็ถอนไม่ได้ทุกคน เพราะธนาคารไม่มีเงินคืนให้แก่ผู้ฝากเงินสกุลยูโรที่ถูกถอนไปหมด และธนาคารกลางของสหภาพยุโรป ก็ลอยแพ ไม่ยอมโอนเงินกู้เพิ่มให้เพราไร้เครดิตความน่าเชื่อถือ

ปี 2016 ชาติในสหภาพยุโรป (EU) ต้องช่วยกันลงขันจ่ายหนี้ช่วยเหลือกรีซ ทำให้สหราชอาณาจักร ไม่เอาด้วยถีบหัวส่งขอออกจากกลุ่ม EU ไปทันที ตั้งแต่นั้นมา EU กับอังกฤษ ก็หมางเมินกัน และสหรัฐ ก็พยายามจะบล็อกและทุบเศรษฐกิจเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ขาใหญ่ EU เรื่อยมา เพราะกลัวจะไปร่วมมือกับรัสเซีย แล้วรุ่งเรืองกว่าตนและอังกฤษ

ปี 2022 กรีซ เป็นหนึ่งในกลุ่มสงคราม NATO ถูกสหรัฐ ยุยงให้ยึดเรือน้ำมันอิหร่าน และรัสเซีย ในน่านน้ำทะเลสากล ต่อมาอิหร่านสวนกลับยึดเรือน้ำมันกรีซ 2 ลำที่ผ่านช่องแคบเฮอร์มุช และขู่ว่าจะยึดเรือน้ำมันกรีซอีก 17 ลำที่ตกค้างในอ่าวเปอร์เซีย

ส่วนรัสเซียก็ระงับส่งสินค้าอาหารให้กรีซ ด้านยูเครน ก็ยึดเรือสินค้ากรีซ เป็นตัวประกัน ในท่าเรือโอเดสซา ข่มขู่แบล็กเมล์เอาอาวุธ ทำให้กรีซ แทบไม่เหลือเรือสินค้า ต้องยอมคืนเรือและน้ำมันชดใช้ให้อิหร่านทุกหยด

กรีซอยู่กลุ่ม EU ทำให้สหรัฐ ปล่อยข่าวกรองลวงว่ารัสเซีย เป็นภัยคุกคามร้ายแรง พลังงานรัสเซียนั้นน่ากลัว ให้ซื้อจากสหรัฐ จะมั่นคงกว่า รับประกันจะมายืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว

ล่าสุดเกิดม็อบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากแทบทั้งหมดในกรุงเอเธนส์ นัดหยุดงานรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลเอาไว้ก่อน แล้วบรรดาบุคคลากรทางการแพทย์แทบทุกคน ลงถนนเรียกร้องค่าจ้างให้สูงขึ้นทันเทียบเท่ากับอัตราเงินเฟ้อ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานของพวกเขา

และยังเกิดม็อบนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ ในกรุงเอเธนส์ ต่อต้านนโยบายรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิเสรีภาพ  ยกกำลังเข้าปะทะกับตำรวจปราบจลาจลใช้กำลัง 2 ฝ่ายอย่างรุนแรงบาดเจ็บระนาวไปตามๆ กัน

กรีซ มีความเสี่ยงจะการก่อจลาจลบานปลาย จนเกิดสงครามกลางเมืองซ้ำรอยถอยหลังไป 81 แบบปี 1941 อีกครั้ง เมื่อนั้นจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติใดกล้าโผล่ไปโดนลูกหลง ส่วนกรีซ จะล้มละลายซ้ำรอยอีกครั้งแบบปี 2015 หรือไม่นั้น จะทนอึดอีกไม่กี่เดือนจะได้รู้กัน”