จากที่อิหร่านส่งโดรนพร้อมทั้งขีปนาวุธให้รัสเซียใช้โจมตีกองกำลังนาโต้และยูเรน ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทำให้ฝ่ายสหรัฐต้องออกมาข่มขู่จะคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม แต่ปรากฏว่าไม่มีใครสนใจเกรงกลัวต่อคำขู่ดังกล่าว!!!
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อ Blockdit World Update โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 โดยระบุแหล่งที่มาไว้บางช่วงที่สำคัญว่า
“อิหร่านได้ต้นแบบโดรนกามิกาเซ่ Harop อิสราเอลมาทำวิศวกรรมย้อนกลับพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมแก้ไขจุดอ่อน หนึ่งในรุ่นนั้นคือ Shahed-136 ขนาดปีก 2.5 เมตร ปล่อยเป็นชุดจากบนบนรถ ร่อนและขับเคลื่อนด้วยใบพัดด้านหลังพิสัยทำการ 2,000 กม. บรรทุกหัวระเบิด 50 กก. ใช้สำหรับลาดตระเวน และพุ่งชนโจมตีเป้าหมาย
อิหร่านได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนกามิกาเซ่ Shahed-136 ให้รัสเซียโคลนนิ่งเป็นอากาศยานโดรนรุ่น Geran-2 (Geranium-2) ต่างกันตรงรัสเซียมาดัดแปลงเป็น Glonass navigator เป็นของรัสเซียเอง โดยแลกเปลี่ยนกับเครื่องบินรบตระกูล Su ของรัสเซีย
จากนั้นรัสเซีย ก็ผลิตโดรนกามิกาเซ่ Geran-2 เองโดยอาจมีวัสดุบางส่วนมาจากอิหร่าน แล้วนำมาใช้ในสมรภูมิต่อสู้กับฝ่ายกองกำลัง NATO ในฉากหน้ายูเครน เพราะในแต่ละหมวด หรือกองร้อยที่จัดกำลังตามตำรา NATO นั้นจะมีทหารรับจ้างชาติตะวันตกคอยคุมประกบสั่งการอีกที
จึงเป็นกองกำลังผสมของ NATO ที่รับคำสั่งจากศูนย์บัญชาการร่วมในเยอรมัน โดยมีผู้บังคับบัญชาสูงสุดเป็นนายพลสหรัฐ จึงต้องเรียกว่ากองกำลังผสม NATO ในยูเครนเพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง
ทรัพยากรอาวุธและกำลังพลจึงประกอบด้วย NATO จำนวน 30 ชาติ บวกกับพันธมิตรนอก NATO จำนวน 10 ชาติ ซึ่งทหารยูเครนจะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ นี้ในกองกำลังผสม 40 ชาติ เข้ารุกรานชิงดินแดนรัสเซีย ตามรัฐธรรมนูญ
จึงทำให้สหรัฐ บีบบังคับชาติ NATO และพันธมิตรให้ระบายสต็อคอาวุธเก่าเก็บ มีตำหนิ ในคลังออกไปใช้ในสมรภูมิยูเครน แล้วให้จัดงบประมาณ 2% ของ GDP ซื้ออาวุธใหม่จากสหรัฐ ทนแทนของเดิม
เมื่อรัสเซีย นำโดรนกามิกาเซ่ Geran-2 มาโจมตีเป้าหมายในยูเครน ทางการทหาร โครงสร้างอาคารพลังงานและสถานีเรดาร์ ด้วยการตรวจจับแหล่งกำเนิดรังสี จึงทำให้บรรดาระบบต่อต้านอากาศยานที่คุยว่าดีๆ ของ NATO พากันหลับลึก ไม่ยอมทำงาน หรือยิงสกัดก็ผิดพลาด
เหตุเพราะบรรดาเรดาร์แบบ 3D ของระบบต่อต้านอากาศยานของ NATO เหล่านั้นใช้เทคโนโลยีคล้ายกันหมด เมื่อโดน วิศวกรรมย้อนกลับ ระบบคอมพิวเตอร์จึงเข้าใจว่าสิ่งตรวจจับนั้นคือโดรนกามิกาเซ่ Harop (Harpy-2) ของอิสราเอล พวกเดียวกัน จึงไม่ยอมทำลายโดรนแว้น Geran-2 รัสเซียเพราะคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน
ที่เห็นชัดคือเมื่อฝ่ายยูเครนยิงด้วยจรวดต่อต้านอากาศยานประทับบ่า MANPAD รุ่น Stinger ของสหรัฐ ใส่โดรนแว้น Geran-2 รัสเซีย มันก็จะบิดปีกพริ้วหลบได้อย่างง่ายดาย จึงยิงสกัดบนอากาศอย่างไรก็ไม่โดนสักครั้ง
แม้แต่ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน IRIS-T SML ของเยอรมัน ราคาแพงก็พบว่าถูกใช้เป็นครั้งแรกในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และมันก็พ่ายแพ้ให้กับโดรนแว้นกามิกาเซ่ Geran-2 รัสเซีย เมื่อพบซากของจรวดระบบต่อต้านอากาศยานเยอรมนี ขาดครึ่งท่อนตกในกรุงเคียฟนั่นเอง”