จากกรณีรัสเซียเข้าบุกยึดเมืองยูเครน โดยอิหร่านได้ส่งโดรนและขีปนาวุธให้ ซึ่งมีรายงานถึงอิสราเอลด้วยในการส่งอาวุธให้ยูเครน โดยรัสเซียได้ออกมาเตือนอาจทำให้ความสัมพันธ์ขาดลง พร้อมทั้งการบุกยึดที่ราบสำคัญด้วยนั้น
ทั้งนี้ Blockdit World Update โพสต์ข้อความกรณีอิสราเอลกับรัสเซีย ไว้บางส่วนว่า “ นายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงรัสเซีย ระบุผ่านโซเชียลมีเดียทำนองว่า ถ้าอิสราเอล จะจัดหาอาวุธให้กับยูเครน จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ประมาทอย่างยิ่ง เพราะจะทำลายความสัมพันธ์ทั้งหมดระหว่างรัสเซียและอิสราเอล
ชาวสลาฟยังช่วยยึดคืนกรุงเคียฟ ให้ชาวยิวมีอำนาจปกครองชาวยูคหัวรุนแรงนีโออยู่ตอนนี้ และที่สำคัญคือถ้าอิสราเอลขยับอาวุธมายูเครน จะโดนนักรบเฮชบุลเลาะห์ และนักรบฮามาส ปาเลสไตน์ที่จ้องอยู่ตาไม่กระพริบ
สบช่องอิสราเอลย้ายอาวุธออกมีช่องโหว่ป้องกันตนเอง และติดหล่มสงครามยูเครน จะโดนถล่มด้วยขีปนาวุธ และจรวดใส่กรุงเทลอาวีฟ เมืองไฮฟา ศูนย์กลางการเงินและธุรกิจ และจะถูกกองทัพรัสเซีย 30,000 นายช่วยกองทัพซีเรีย บุกยึดโจมตีราบสูงโกลัน ตามที่เคยประกาศไว้ นี่คือความไม่มั่นคงที่อิสราเอลจะต้องเผชิญ”
ล่าสุดวันนี้ 21 ตุลาคม 2565 Blockdit World Update ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของอิสราเอลอีกครั้ง จากการผลิตอาวุธ แต่ปรากฏว่ายังพ่ายให้กับกองกำลังนักรบส่วนน้อยว่า
“อิสราเอล มีระบบต่อต้านอากาศยานระยะใกล้ที่ใช้คือ Iron dome พิสัยหวังผล 70 กม. ตรวจจับเป้าหมายด้วยระบบเรดาร์ 3D ได้ไกล 470 กม. จำนวน 1,100 เป้าหมายพร้อมกัน ยิงเป้าหมายอัตโนมัติ ด้วยแท่นบรรจุจรวด Tamir ราคาชุดละเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ (3,800 ล้านบาท)
จรวด Tamir ลูกละ1.3 ล้านบาท ยิงสกัดได้ไกล 40 กม. ใช้ปกป้องน่านฟ้า ในกรุงเทล อาวีฟ และเมืองใหญ่เขตเศรษฐกิจ ช่วงแรกสามารถสกัดเป้าหมายได้ราว 90%
ส่วนนักรบฮามาส ปาเลสไตน์ ใช้จรวด Qassam ลูกจริง 40,000 บาท , ลูกปลอม 6,000 บาท ยิงครั้งละ 40 ลูก จากระยะ 40 กม. ต้นทุนจรวดฮามาส ยิงไปชุดละ 1.6 ล้านบาท
ต้นทุนจรวดระบบต่อต้านอากาศยาน Iron Dome ชุดละ 52 ล้านบาท แพงกว่า 32 เท่า/ชุดยิง เมื่อชนบนอากาศแล้วย่อมต้องมีซากตกลงมาสู่พื้นโลก
นักรบฮามาส เก็บจรวด Tamir แล้วส่งต่อให้กองทัพอิหร่าน ทำวิศวกรรมย้อนกลับพบว่าระบบ Iron drome มีจุดอ่อนคือ แยกแยะจรวดจริงที่มีหัวระเบิดกับจรวดปลอมไม่ได้
ปี 2021 นักรบฮามาส ปาเลสไตน์ ยิงจรวดปลอม ผสมจรวดจริงคราวละพร้อมกันหลายพันลูกใส่กรุงเทลอาวีฟ ทำให้ระบบ Iron drome สับสนเพราะปริมาณมากเกินไป และแยกแยะเป้าหมายจริงและปลอมไม่ได้ ผลคือมีจรวดจริงหลุดไปตกใส่กรุงเทลอาวีฟจำนวนมาก
ประสิทธิภาพป้องกันลดฮวบลงเหลือไม่ถึง 60% รบกัน 10 วัน เกิดความสูญเสียชีวิตพลเมืองจำนวนมาก และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจยับเยินต่ออิสราเอล ต้องวิ่งวุ่นไปหาอียิปต์ ช่วยเจรจาหยุดยิง ต่อมาอิสราเอลจึงพัฒนาระบบต่อต้านกาศยานรุ่นใหม่ Arrow 3 มาเสริม
อิสราเอล มีโดรนกามิกาเซ่รุ่น Harop (Harpy-2) ขนาดปีก 3 เมตร มักปล่อยจากบนยานเกราะ ร่อนและขับเคลื่อนด้วยใบพัดด้านหลังพิสัยทำการ 1,000 กม. บินได้นาน 6 ชม. บรรทุกหัวระเบิด 23 กก. ใช้สำหรับลาดตระเวน และพุ่งชนโจมตีเป้าหมาย กองกำลังเฮชบุลเลาะห์ในเลบานอน”
