สถานการณ์ร้อนในยูเครนยิ่งทวีความคุกรุ่น เมื่อนาโต้ส่งสัญญาณดันหลังเคียฟบุกเคอร์ซอน การก่อกวนยิงถล่มเข้าไปยังดินแดนรัสเซียหลายครั้ง และล่าสุด เคียฟใช้ขีปนาวุธไฮมาร์(ส)ที่รับจากเมกา โจมตีอาคารบริหารเอเนอร์โกดาร์ ซิตี้ฮอลล์ (Energodar City Hall) เมืองซาโปริเชีย ยิ่งยั่วยุให้การตอบโต้จากรัสเซียหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้น
บ่ายวันพุธ ปธน.ปูตินประกาศใช้กฎอัยการศึกใน ๔ แคว้นใหม่ และเร่งอพยพประชาชนจากเมืองเคอร์ซอนเคลียร์พลเรือนเตรียมรบเดือดกับกองกำลังผสมเคียฟ-นาโต้ ขณะที่ยื่นเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เร่งตรวจสอบยูเครนเตรียมใช้อาวุธเคมีในสนามรบเคอร์ซอน ซึ่งเป็นสงครามต้องห้ามผิดกฎบัตรสหประชาชาติ ขณะเดียวกันในสนามรบ เป็นหน้าที่ของกองทัพรัสเซียและกองกำลังท้องถิ่นและหน่วยรบพิเศษจะประสานกันสู้ศึก ลุ้นระทึกรัสเซียจะสั่งสอนนาโต้แบบไหนใครเหนือกว่า ใครจะกระเจิงในสนามรบจริง
วันที่ ๒๐ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และอาร์ไอเอ(RIA)รายงานว่า ปธน.ปูตินได้ลงนามกฎหมายการบังคับใช้กฎอัยการศึกใน๔ภูมิภาคใหม่ ประกอบด้วยแคว้นลูฮันสค์ โดเนตสค์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน สั่งการให้ดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบกับเคียฟอย่างถึงที่สุด
รวมทั้งเพิ่มอำนาจให้กับผู้บริหารของทั้ง ๔ แคว้นในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ เช่น การจัดตั้งหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน การจำกัดการเดินทางของประชาชน และการอพยพพลเรือนไปยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะกับยูเครนที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนใต้ เขตเคอร์ซอน
ปูตินกล่าวในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เขาได้ลงนามในเอกสารหลายฉบับที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย นอกจากนี้เขาย้ำว่าเคียฟใช้“วิธีการก่อการร้าย”ต่อรัสเซีย
ปูตินอธิบายว่า “กองกำลังยูเครนทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เช่นเดียวกับบรรพบุรุษในอุดมคติของพวกเขา ผู้สืบทอดของฮิตเลอร์ คือสเตฟาน แบนเดรา พวกเขาพยายามสร้างนรกใต้พิภพ ส่งทีมก่อวินาศกรรมบนดินกับทรัพย์สินและประชาชนของเรา”
ในด้านระบบการแจ้งเตือน มีกฤษฎีกาที่แยกออกมาต่างหาก ปูตินสั่ง”ระดับปฏิบัติการปานกลาง”ในส่วนอื่นๆ ของรัสเซียตะวันตก ซึ่งรวมถึงสาธารณรัฐไครเมีย เมืองเซวาสโทพอล เช่นเดียวกับภูมิภาคคราสโนดาร์ (Krasnodar), เบลโกนอดผBelgorod), บรียานสค์(Bryansk), โวโรเนซ(Voronezh), เคิร์สร์(Kursk) และ รอสตอฟ (Rostov)
ด้านการประสานงานของรัฐบาล ปธน.สั่งให้รัฐบาลกลางจัดตั้งศูนย์ประสานงานพิเศษในด้านต่างๆ ของวิกฤตยูเครน ตั้งแต่การซ่อมแซมระบบอาวุธสำหรับกองทัพ ไปจนถึงการรักษาพยาบาลแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ และการซ่อมแซมความเสียหายที่ได้รับจากเมืองและเมืองต่างๆ ในระหว่างการสู้รบ
การสนับสนุนของการระดมกองหนุน คำสั่งอีกชุดหนึ่งสั่งกระทรวงกลาโหมให้ผู้ที่ลงทะเบียนรับราชการทหารภายใต้การระดมพลบางส่วนจะได้รับค่าตอบแทน ค่าจ้างรายเดือนขั้นต่ำ๑๙๕,๐๐๐ รูเบิล หรือมากกว่า ๓,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับทุกคน และสั่งกระทรวงการคลังจัดสรรเงินเพื่อชดเชย
ปูตินเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดหาสิ่งที่ทหารจำเป็นต้องทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึงค่ายทหารและสถานที่ปฏิบัติงาน สภาพความเป็นอยู่ เครื่องแบบและอุปกรณ์ อาหาร การรักษาพยาบาล เขากล่าวว่า “เราต้องช่วงชิงโอกาสในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ในลักษณะที่คู่ควรกับประเทศของเรา”
จากรายงานของนายพลอะมาเก็ดดอนเมื่อวาน รัสเซียพบว่าเคียฟอาจเตรียมใช้สงครามต้องห้าม ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า การใช้อาวุธเคมี ซึ่งเวลาจนตรอกเมกาฯเคยใช้มาแล้วในสนามรบซีเรียและป้ายสีว่าอัสซาดผู้นำซีเรียทำ แต่ความจริงได้รับการปกป้องจากพยานคนซีเรียทำให้ยูเอ็นไม่สามารถทำอะไรอัสซาดตามคำสั่งเมกาได้ มาครั้งนี้มีเค้าลาง ทำให้รัสเซียเร่งยื่นเรื่องคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติให้ตรวจสอบเคียฟจ่อใช้อาวุธเคมีในการสู้รบ และทรมานนักโทษด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า แม้จะไม่หวังผลอะไรจากUNSC มากแต่ได้เปิดโปงความชั่วร้ายของเมกาและสมุนให้โลกได้รู้
ส่วนสถานการณ์ในสมรภูมิสู้รบ เคอร์ซอนเป็นจุดร้อนแรงของการปะทะระหว่างกองทัพรัสเซียและกองกำลังผสมเคียฟ-นาโต้
รองหัวหน้าฝ่ายปกครองท้องถิ่น คิริลล์ สเตรมูซอฟ รายงานการสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับกองพันทหารราบของยูเครนมากถึงสองกองพัน
เมื่อวันอังคาร หัวหน้าภูมิภาค วลาดิมีร์ ซัลโด ประกาศว่าประชากรพลเรือนของเคอร์ซอนจะถูกย้ายไปอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำดนีเปอร์ เขาเตือนว่ายูเครนสามารถทำลายเขื่อนที่ต้นน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำคาคอฟกา (Kakhovka) ซึ่งจะทำให้การข้ามแม่น้ำยากขึ้นในบางครั้ง เขาประเมินว่าพลเรือนกว่า ๕,๐๐๐ คนถูกย้ายออกจากเคอร์ซอนเสร็จสิ้นภายในเวลาไม่ถึงสองวัน
ในการสู้รบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียทำการโจมตีนำด้วยโดรนจำนวนมาก แล้วตามเก็บด้วยขีปนาวุธ ทำให้การทำงานของระบบพลังงานยูเครนเสียหาย รวมไปถึงการขนส่งทางทหาร การจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกองทัพยูเครน และถล่มโรงงานทหาร ทำให้การซ่อมแซมรถหุ้มเกาะยุทโธปกรณ์อื่นหยุดชะงักเป็นอัมพาต ทั้งหมดนี้เพื่อทำลายกองหลังที่จะสนับสนุนแนวหน้าของยูเครน
นับจากนี้การโจมตีระลอกใหม่ของกองทัพรัสเซียต่อเคียฟ จะดุเดือดรุนแรงขึ้นอย่างไม่ปราณีเมื่อเคลียร์ชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้แล้ว จะได้เห็นเขี้ยวเล็บในหลากหลายรูปแบบ ทั้งมิสไซล์ทางยุทธวิธี โดรนพลีชีพ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และอาวุธแนวราบอีกมากมาย ศึกครั้งนี้วัดศักยภาพการสู้รบของรัสเซียกับเมกา-นาโต้อย่างแท้จริง ใครของจริงเราจะได้เห็น??? จับตาแนวหลังเคียฟจะเจอเซอร์ไพรซ์??