แนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟิ้นตัวจากคำยืนยันทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยและไอเอ็มเอฟ รัฐบาลไม่รอช้าดันต่อเนื่อง จัดเต็มปลุกเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย ต่อมาตรการคนละครึ่งเฟส ๖ งัด “ช้อปช่วยชาติ” โดยอัดมาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก ๓ หมื่นบาท คาดเริ่ม ๘ พ.ย.-๓๑ ธ.ค. หลังจากต้นปีให้สิทธิ “ช้อปดีมีคืน” ไปแล้ว รอบนี้เปิดช่องโรงแรม-ที่พักทั่วประเทศร่วมขบวน คาดสรรพากรจำเป็นต้องสูญรายได้ภาษี ๔,๙๐๐ ล้านบาท โรงแรม-ค้าปลีกเด้งรับกระตุ้นจับจ่ายช่วงไฮซีชั่นปลายปีคึกคัก
วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีว่า เช่น โครงการช้อปช่วยชาติ คนละครึ่งเฟส ๖ กระทรวงการคลังพิจารณาอยู่ และอยู่ในลิสต์แล้วทั้งหมด โดยแหล่งเงินมาจากงบประมาณที่มาจากงบฯกลางส่วนหนึ่งและเงินกู้ที่ยังเหลือ
หลักการ คือ กระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ซึ่งขณะนี้ดัชนีทางเศรษฐกิจไปด้วยตัวเอง อยู่ในทิศทางที่ดี แต่เราก็ไม่ประมาท และในช่วงสิ้นปีเป็นโอกาสที่ดี ประกอบกับสัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มั่นใจว่าจีดีพีปี’๖๕ จะมากกว่า ๓% และรัฐบาลมั่นใจว่าจีดีพีปีนี้ ๓+ ดีกว่าที่คาดไว้
“ปลายปีเป็นช่วงที่จะกระตุ้นให้มีการใช้จ่าย เพราะการอุปโภคบริโภคเป็นปัจจัยสำคัญ โดยจะนำแพ็กเกจเข้า ครม.เห็นชอบให้ได้เร็วที่สุด คาดว่าราวกลาง พ.ย.พร้อมกับของขวัญปีใหม่”
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบงบฯกลางปี’๖๖ วงเงิน ๓๐๐ ล้านบาท เพื่อขยายเวลาช่วยเหลือราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะครบกำหนดในเดือน ต.ค.ไปจนถึง ธ.ค. ๒๕๖๕
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีกำลังดูอยู่ เน้นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า โดยการลทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีผลต้นปี
รัฐบาลเตรียมนำมาตรการช้อปดีมีคืน กลับมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีอีกครั้ง หลังจากหลายปีก่อนมีมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีมาตลอด แต่มาปี ๒๕๖๔ ไม่มีมาตรการกระตุ้นตอนปลายปี แต่มากระตุ้นต้นปี ๒๕๖๕ แทน โดยใช้ชื่อว่า “ช้อปดีมีคืน”
กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณา จะเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติภายในวันที่ ๒๕ ต.ค.นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์ต่อไปจะทำให้ปีนี้มีช้อปดีมีคืน/ช้อปช่วยชาติออกมากระตุ้นทั้งต้นปีและปลายปี
“เบื้องต้นหารือกันว่ามาตรการจะเริ่มตั้งแต่ ๘ พ.ย.-๓๑ ธ.ค. ๒๕๖๕ โดยให้วงเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทเช่นเดียวกับต้นปี ทำให้ปีนี้ผู้เสียภาษีใช้สิทธิลดหย่อนภาษีถึง ๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจะสูญเสียรายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ได้ VAT กลับมา”
การดำเนินมาตรการรอบปลายปีนี้ ท่องเที่ยวก็ได้สิทธิลดหย่อน จะให้สิทธิสำหรับรายจ่ายค่าที่พักโรงแรมด้วย จากที่มาตรการตอนต้นปีไม่ได้ให้สิทธิตรงนี้ เนื่องจากตอนนั้นมีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว คือ “เที่ยวทั่วไทย” ซึ่งมีการลดหย่อนภาษีให้อยู่แล้ว อย่างไรก็ดี รอบนี้ไม่มี “เที่ยวทั่วไทย” แล้ว ประกอบกับไม่มีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เนื่องจาก พ.ร.ก.เงินกู้ ๑.๕ ล้านล้านบาท เงินหมดแล้ว จึงต้องใช้ช้อปดีมีคืน ซึ่งเป็นมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นทั้งการจับจ่ายและการท่องเที่ยวในประเทศไตรมาสสุดท้าย
“รอบนี้ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตต่าง ๆ จะได้ด้วย ถ้าเป็นกิจการที่มีการจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้หมด”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีมีข้อเสนอจากภาคเอกชน ให้นำมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาใช้ลดหย่อนภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น ที่ผ่านมาในช่วงต้นปี ๒๕๖๕ กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการดังกล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังก็พร้อมรับเป็นข้อเสนอไปพิจารณา หากภาคเอกชนเสนอมา ซึ่งก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังคาดว่าในช่วงเดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไป หลาย ๆ กระทรวงก็จะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเรื่องการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปลายปีเช่นเดียวกัน เพียงแต่ขณะนี้ยังต้องรอนโยบายจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าจะเรียก สศค.หารือเร็ว ๆ นี้
