ยูเครนแพ้แล้วป่วน! เชลยทหารขอสัญชาติไปรัสเซีย ขณะชาวเมืองประท้วงรบ.จี้ส่งญาติผู้ชายคืนมา

0

จากกรณีการสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งดำเนินมาตลอดหลายเดือน เกิดการสูญเสีย บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย รวมทั้งมีการจับกุมเชลยศึก ที่ต่อมามีรายงานเปิดเผยถึงการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกันด้วยนั้น

ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวจาก Blockdit World Update  ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีการระบุแหล่งที่มาไว้บางส่วนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ว่า

“ล่าสุดมีการเจรจาแลกเชลยระหว่างกัน โดยฝ่ายยูเครน ปล่อยตัวประกันพลเรือนชาวรัสเซีย ในดินแดน Nezalezhnaya ที่ยูเครนจับไปเป็นตัวประกันตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จำนวน 72 คน กับนักรบท้องถิ่นอดีตชาวยูเครนแยกเอกราช 38 คน รวม 110 คน

ฝ่ายรัสเซีย ปล่อยตัวเชลยทหารหญิงชาวยูเครน จำนวน 110 คน ไม่ได้ปล่อยผู้ชาย ในจำนวนนี้มี 2 คน ขอปฏิเสธที่จะกลับไปดินแดนยูเครน และแจ้งความประสงค์ขอสัญชาติเป็นพลเมืองรัสเซีย จึงเหลือกลับบ้าน 108 คน

ปัจจุบันผู้ชายในยูเครน ถูกเกณฑ์ไปรบจำนวนมากและสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย กองทัพยูเครนจึงเกณฑ์ทหารหญิงไปราว 8,000 คน ในจำนวนนี้ถูกส่งไปแนวหน้า 5,000 คน

จึงมีชาวบ้านในเมืองลวิฟ ตะวันตกยูเครน ออกมาก่อม็อบเรียกร้องให้ทางการยูเครน เอาญาติผู้ชายของพวกเขาคืนมา เพราะแถวนั้นแทบจะเหลือแต่ผู้หญิงและเด็กแล้ว

ส่วนกองทัพยูเครน เหลือทหารตนเอง และทหาร NATO ในแนวหน้า 1,100 กม.ราวไม่เกิน 60,000 คน ที่เหลือกระจายอยู่แนวหลัง

ผู้นำยูเครน จึงเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากเสียเมืองบัคมุท และลิมานไปเพราะจะเขินทางสื่อมาก ช่วงนี้เขาหลบในบังเกอร์ ไฟฟ้าดับ สัญญาณไลฟ์สดจึงหายจาก FC ไปบ้าง

กองทัพยูเครนจึงสั่งถอนทหารย้ายจากแนวหน้าเคอร์ซอน และซาโปริชเซีย ที่ป่านนี้ยังเจาะชายแดนรัสเซียใหม่ไม่เข้า เสียยานเกราะให้ทหารรัสเซียทำสุสานเศษเหล็กมากเกินไป

กองทัพยูเครน จึงให้ย้ายระดมกำลังพลไปช่วยเมืองบัคมุท และลิมาน ที่ร่อแร่สุดขีด อันจะทำให้เหลือทหารแนวหน้าภาคใต้ลดน้อยเบาบางลง

การปั่นกระแสบุกยึดถ่ายป้ายหมู่บ้านประกาศชัยชนะจะลดลง เป็นช่องว่างให้กองทัพรัสเซีย ค่อยๆ รุกคืบขยายเขตแดนไปทีละน้อย รอฤดูหนาวจัดมาเยือนจนได้เปรียบแล้วรุกใหญ่คราวเดียว”