สัปดาห์แห่งการเปิดฉากความระอุเดือดของสถานการณ์การสู้รบ ระหว่างรัสเซียกับนาโต้ ภายใต้สงครามตัวแทนยูเครนได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริง ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ เครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียตู-๙๕ (TU-95)โฉบไปยังอะลาสกาใกล้น่านฟ้าสหรัฐฯ แหย่รังอินทรีท่ามกลางการซ้อมรบนิวเคลียร์ทั้งสองฝ่าย ขณะที่ฝ่ายนาโต้ซ้อมรบทะเลเหนือเขตเบลเยี่ยม แต่ฝ่ายรัสเซียปิดรายละเอียดเงียบน่าแปลกแม้แต่ตะวันตกก็ไม่รู้ขอบเขตการซ้อมและไม่รู้ว่ามีประเทศไหนเข้าร่วมซ้อมรบนิวเคลียร์กับรัสเซีย
ขณะการสู้รบในสมรภูมิยูเครนเป็นไปอย่างดุดัน เคียฟคร่ำครวญขอเมกา-นาโต้ช่วยเพราะโดนถล่มติดๆเกือบสัปดาห์ยังแก้ปัญหาโดรนพลีชีพไม่ตก พาลตัดสัมพันธ์อิหร่านฐานขายโดรนไร้เทียมทานให้รัสเซีย วันนี้และหลายวันมาก่อนหน้านี้รัสเซียยืนยันว่าโดรนนี้ไม่ได้ซื้อจากอิหร่าน แค่เป็นโดรนเทคโนโลยีอิหร่าน ซึ่งรัสเซียผลิตเอง ท่ามกลางข่าวลือว่า เครื่องบินขนส่งอิหร่านนำส่งโดรนคามิกาเซ่ไปหลายประเทศ เรื่องนี้ในโซเชียลมีเดียต่างลือกันว่า มี ๒๒ ประเทศสั่งซื้อโดรนตัวนี้จากอิหร่านเพราะเห็นผลงานที่ใช้ในสนามรบยูเครน เป็นอาวุธที่ถูกและมีประสิทธิภาพแต่ไม่แจงรายชื่อว่าประเทศไหนสั่งซื้อบ้าง
แนวรบที่ยูเครน นายพลอะมาเก็ดดอนออกมาพูดครั้งแรก หลังได้รับแต่งตั้งคุม ๓ เหล่าทัพปราบเคียฟ-นาโต้ว่า สถานการณ์ในเคอร์ซอนตึงเครียดเพราะเคียฟทุ่มกำลังทั้งจำนวนทหารและอาวุธ หวังตีให้แตก จำเป็นต้องอพยพประชาชนก่อน และอาจต้องตัดสินใจบางอย่างที่ยากแต่จำเป็นต้องทำ ส่งสัญญาณขนหัวลุกไปยังเคียฟมากขณะที่สื่อตะวันตกตีความว่า เห็นท่าไม่ดีรัสเซียแพ้แน่ยูเครนรุกคืบยึดเคอร์ซอนแน่ เป็นการตีความแบบคนละเรื่องเดียวกันแบบนี้ซ้ำซาก โดยไม่เผยรายละเอียดที่แม่ทัพใหญ่พูดถึงความเลวร้ายของเคียฟที่พุ่งเป้าทำลายชีวิตประชาชนแม่แต่ชาวยูเครนด้วยกันอย่างโหดร้าย เรียกว่าขาโหดอย่างเขายังรับไม่ได้ จับตาคืนนี้ปูตินเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงอีกครั้ง เมื่อชัดเจนว่าเซเลนสกี้หนีไปซ่อนที่อื่นแล้ว อาจตัดสินใจบุกเคียฟถล่มรังนาโต้เร่งปิดจ๊อบ
วันที่ ๑๙ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า เซอร์เก ซูโรวิคิน (Sergey Surovikin) นายพลแห่งกองทัพอากาศรัสเซียซึ่งได้รับมอบหมายให้บัญชาการร่วม๓ เหล่าทัพกล่าวว่า “ศัตรูคือระบอบอาชญากรที่ผลักไสพลเมืองยูเครนให้ตาย เราและชาวยูเครนต่างต้องการสิ่งเดียวกัน นั่นคือยูเครนต้องเป็นอิสระจากตะวันตกและนาโต้ เป็นรัฐที่เป็นมิตรของรัสเซีย”
ซูโรวิกินกล่าวว่า “ผู้นำของ NATO ที่รับผิดชอบกองกำลังติดอาวุธของยูเครนเรียกร้องการปฏิบัติการเชิงรุกในทิศทางเคอร์ซอน โดยไม่คำนึงถึงจำนวนผู้เสียชีวิต ทั้งในกองกำลังติดอาวุธของยูเครนเองและในหมู่ประชากรพลเรือน”
ซูโรวิกินเปิดเผยว่า “รัสเซียยังมีข้อมูลว่าเคียฟอาจกำลังเตรียมที่จะใช้วิธีการทำสงครามต้องห้ามในเคอร์ซอน รวมถึงแผนโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่บนเขื่อนคาคอฟสกายา(Kakhovskaya) ยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่โจมตีเมืองโดยไม่เลือกปฏิบัติ การกระทำเหล่านี้อาจนำไปสู่การทำลายล้าง โครงสร้างพื้นฐานของศูนย์กลางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในเคอร์ซอน และทำให้พลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก”
ผู้บัญชาการกล่าวย้ำว่า “แผนและการดำเนินการของเราเกี่ยวกับเมืองเคอร์ซอนจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางยุทธวิธีทางทหารที่กำลังเกิดขึ้น และจะดำเนินการจากความจำเป็นในการรักษาชีวิตของพลเรือนในท้องถิ่นและบุคลากรทางทหารของรัสเซียให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เขาระบุว่ายูเครนสูญเสียทหาร ๖๐๐ ถึง ๑,๐๐๐ นายที่เสียชีวิตและบาดเจ็บต่อวัน “เรามีกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ปธน.ปูตินผู้บัญชาการสูงสุดได้ย้ำเรื่องนี้ เราไม่ได้มุ่งมั่นเพื่อความก้าวหน้าในการทำลายล้างที่สูง แต่ต้องดูแลทหารและประชาชน พร้อมๆกับ ‘บดขยี้’ ศัตรูที่กำลังรุกอย่างเป็นระบบ”
ซูโรวิคินรายงานสถานะสงครามทางอากาศว่า เป้าหมายทางทหารของยูเครนกว่า ๖๐๐ เป้าหมายถูกทำลายจากการโจมตีด้วยโดรนโจมตี และมีการก่อกวนมากกว่า ๘,๐๐๐ ครั้ง เครื่องบินรบของรัสเซียได้ทำการก่อกวนมากกว่า ๓๔,๐๐๐ ครั้งในระหว่างการปฏิบัติการพิเศษตั้งแต่เดือนก.พ.จนถึงปัจจุบัน และมีการใช้อาวุธนำวิถีมากกว่า ๗,๐๐๐ รายการ รวมถึงขีปนาวุธคินซาล (Kinzhal) ที่มีความเร็วเหนือเสียง
ในการใช้โดรนคามิกาเซ่ซึ่งฝ่ายเคียฟและนาโต้ยังอับจนหนทางในการสยบนั้น โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ชี้แจงข้อเท็จจริงปฏิเสธข้ออ้างที่ว่ากองทัพรัสเซียโจมตียูเครนด้วย UAVs ที่มาจากเตหะราน โดรนพลีชีพที่ใช้ในสนามรบผลิตโดยรัสเซียตั้งชื่อโดยรัสเซีย
รัสเซียทำลายสถานีไฟฟ้าไปแล้วเกือบ ๑ ใน ๓ ของยูเครน ทำลายคลังอาวุธและกองบัญชาการทหารหลายเมือง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของปธน.เซเลนสกี้ระหว่างปราศรัยในคืนวันอังคารที่ ๑๘ ต.ค.ที่ผ่านมา เขากล่าวว่ารัสเซียโจมตีเป้าหมายต่างๆ มากกว่า ๑๐ แคว้นในช่วง๒๔ ชั่วโมง และเร่งเร้าให้ชาวยูเครนลดการบริโภคไฟฟ้าในช่วงเย็นเนื่องจากยังไม่สามารถหาแหล่งพลังงานอื่นๆมาทดแทนได้ทัน สภาพโดยรวมของยูเครนยามกลางคืนจึงมืดสนิท
จับตาดูการส่งมอบระบบต้านขีปนาวุธทางอากาศและอาวุธอื่นๆจากสหรัฐและนาโต้ว่าจะรับมือกับเขี้ยวเล็บของรัสเซียอย่างไร วันนี้พิสูจน์ชัดรัสเซียเหนือกว่าทางยุทธวิธีการทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์แม้ศึกยังไม่จบ แต่สงครามจริงเพิ่มเริ่ม!!!