จากกรณีที่เอพีรายงานว่า นาโต้เริ่มซ้อมรบนิวเคลียร์ประจำปีตามแผน ในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของยุโรป ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังคุกรุ่นจากสงครามในยูเครน ขณะที่ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ขู่ว่าจะใช้ทุกหนทางเพื่อปกป้องดินแดนรัสเซีย
โดยประเทศสมาชิก 14 ประเทศ จากทั้งหมด 30 ประเทศของนาโต้ มีกำหนดเข้าร่วมในการฝึกซ้อมครั้งนี้ ซึ่งจะมีการใช้เครื่องบินประมาณ 60 ลำ ในจำนวนนี้มีเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินสอดแนม และเครื่องบินเติมน้ำมัน รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้การซ้อมรบดังกล่าวจะจัดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียอย่างน้อย 1,000 กิโลเมตร
มีรายงานว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 พิสัยไกลของสหรัฐ จะเข้าร่วมในการซ้อมรบ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม ด้วย
นาโต้ระบุว่า การซ้อมบินจะจัดขึ้นที่เบลเยียม รวมถึงในทะเลเหนือ และสหราชอาณาจักร โดยเป็นการฝึกซ้อมเครื่องบินขับไล่ที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ อย่างไรก็ตาม ในการซ้อมครั้งนี้จะไม่มีการใช้ระเบิดจริง การซ้อมรบครั้งนี้มีการวางแผนไว้ก่อนที่ปูตินจะสั่งทหารรัสเซียรุกเข้าไปในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ด้านรัสเซียเองก็มักจะจัดซ้อมรบประจำปีในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน และนาโต้คาดว่ารัสเซียจะซ้อมใช้นิวเคลียร์ของตัวเองในเดือนนี้เช่นกัน
ส่วนความเคลื่อนไหวทางฝั่งรัสเซีย กระทรวงกลาโหมเบลารุสแถลงว่า กองทัพเบลารุสจะทำการซ้อมรบร่วมกับกองทัพรัสเซียโดยใช้กระสุนจริง และมีการยิงขีปนาวุธนำวิถีต่อต้านอากาศยาน “สาธารณรัฐเบลารุสจะมีการจัดตั้งหน่วยทหารที่ค่ายฝึก 4 แห่งทางตะวันออกและทางตอนกลางของประเทศ และหลังจากนั้นจะมีการเริ่มกิจกรรมซ้อมรบ”
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมเบลารุสเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพรัสเซียจะเข้าประจำการในเบลารุสเพื่อจัดตั้งกองกำลังประจำภูมิภาค ขณะที่เบลารุสอ้างว่ายูเครนกำลังเตรียมการโจมตีดินแดนของเบลารุส
อย่างไรก็ตามการซ้อมรบของทั้ง 2 ฝ่าย ถือเป็นการเตรียมพร้อม หากมีการประลองการรบในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งที่ผ่านมานาโต้ปฏิเสธมาตลอดว่า พวกเขาไม่พร้อมจะเปิดหน้าสู้กับรัสเซีย และไม่ต้องการเข้าสู้ความตึงเครียด ในขณะที่รัสเซียพร้อมบวกเสมอ ทั้งเรื่องกำลังพลและอาวุธ เพราะต้องการสั่งสอนนาโต้ และสหรัฐฯ ให้สาสม กับที่หนุนช่วยยูเครนจนสงครามบานปลาย