หลังจากที่รัสเซียได้จัดเตรียมอาวุธล้ำสมัย ไว้พร้อมรับมือศึกกับชาติตะวันตก โดยปูตินนั้น วางหมากจัดเตรียมของกำนัลไว้ให้ทีมเยือน NATO บริษัททหารรับจ้าง Acadamy PMC ของสหรัฐ แบบเกลือจิ้มเกลือกันเลยทีเดียว เพื่อตอบโต้การหนุนหลังยูเครน จนสงครามบานปลายเข้าสู่เดือนที่ 8 และการเดินเกมใหม่ของปูตินรอบนี้ คาดการณ์ว่าอาจจะต้องเร่งจบศึกก่อนหน้าหนาวจะมาถึง
ส่วนทางด้านสหรัฐฯ ก็มีแผนที่พร้อมปั่นให้หลายประเทศ เดือดต่อเนื่อง เพื่อต้องการค้าอาวุธสงคราม โดยเบน ฮอดจ์ส อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในภาคพื้นยุโรป เชื่อว่าการปลดปล่อยแหลมไครเมีย ที่ถูกรัสเซียยึดครอง มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีหน้า รวมทั้งมีรายงานด้วยว่า หากรัสเซียไม่พ่ายแพ้ในสงครามหนนี้ สหรัฐฯก็พร้อมจะลากประเทศอื่น ให้สู้จนโค่นรัสเซียได้ในเร็ว ๆ นี้อีกแน่
ล่าสุดรัสเซียได้ทำการโจมตียูเครนรอบใหม่ โดยมุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานสำคัญใน 3 ภูมิภาค ทำให้ไฟฟ้าดับในเมืองและหมู่บ้านหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเอเอฟพีรายงานกล่าวว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนใน 3 ภูมิภาคอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามคำแถลงของเดนนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน
เสียงระเบิดในเคียฟเกิดขึ้น 5 ครั้ง ทำให้โรงงานผลิตพลังงานและอาคารที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย โดยมีรายงานว่ารัสเซียใช้โดรนโจมตีใจกลางเมืองกรุงเคียฟ
ชมีฮาลกล่าวว่า นอกจากกรุงเคียฟแล้ว รัสเซียยังโจมตีด้วยจรวดโดยพุ่งเป้าโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในแคว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ทางภาคกลาง และแคว้นซูมือทางภาคตะวันออก ทำให้พลเมืองหลายร้อยหลังคาเรือนถูกตัดขาดจากพลังงาน ขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ชมีฮาลยังเรียกร้องให้ชาวยูเครนลดการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
สำนักงานของประธานาธิบดียูเครนแถลงว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ, ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย มีรายงานด้วยว่า แคว้นดนีโปรเปตรอฟสค์ถูกขีปนาวุธของรัสเซียยิงเข้าใส่ 4 ลูก โดย 3 ลูกถูกระบบต่อต้านยิงตก แต่อีกลูกหนึ่งพุ่งเข้าใส่โรงไฟฟ้าจนเสียหาย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในยูเครนไม่สู้ดีมากนัก เพราะยังสูญเสียกำลังพลรายวัน และยังไม่มีอาวุธล้ำสมัยมาถึงมือให้พอต่อกรกับรัสเซียได้ และยังต้องเผชิญกับไฟฟ้าที่ขาดแคลน ต้องทนอยู่กับความมืดมน รวมทั้งยังมีชะตากรรมที่เศร้า เมื่อถูกบีบว่ายูเครนห้ามแพ้ แต่ก็ยังมองไม่เห็นหนทางจะชนะ ดังนั้นนอกจากยูเครนจะเจอกับศึกที่ล้อมรอบด้าน และศึกที่สหรัฐฯบีบให้สู้ ผู้นำอย่างเซเลนสกี ก็ต้องรับมือกับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ชนิดที่ต้องกุมขมับแก้ปัญหากันเลยทีเดียว