หลังจากที่มีการจับตา 3 สัญญาณแรง ที่จะส่งผลให้เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 โดยสัญญาณแรกที่เกิดขึ้นคือ รัสเซียก็ประกาศว่าจะซ้อมรบนิวเคลียร์ เพื่อพร้อมตอบโต้กลับเช่นกัน ทำให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวว่าจะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการซ้อมรบนิวเคลียร์ของรัสเซียที่กำลังมาถึง แต่จะไม่หงอถอนการสนับสนุนยูเครนตามคำขู่นิวเคลียร์อ้อม ๆ ของมอสโกแน่นอน
ตามมาด้วย สัญญาณที่สอง คือ รัสเซียเตือนว่าหากยูเครนได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่นำโดยสหรัฐ ความขัดแย้งในยูเครนจะบานปลายไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน รวมไปถึงการยกระดับเกมรบ ที่รัสเซียลุยถล่มเมืองนับสิบ ในยูเครนภายระยะเวลาไม่กี่วัน เพื่อตอบโต้เหตุถล่มสะพานไครเมียก่อนหน้านี้
และสัญญาณที่สาม ในเฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ได้โพสต์ข้อความไว้ว่า ฤาใกล้จะถึง #WWIII สมัชชารัฐสภาคณะมนตรียุโรป #PACE มีมติให้ รัสเซีย เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบการก่อการร้าย โดยคำกล่าวเรื่องการก่อการร้าย รัสเซียเคยประกาศผ่านสื่อ ในวันที่ยูเครนออกมายอมรับกลาย ๆ ว่า เป็นฝ่ายของตนเองที่ถล่มสะพาน ปูตินกล่าวว่า นี่คือการก่อการร้ายเช่นกัน แต่ไม่มีใครออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนาโต้และสหรัฐฯ รวมไปถึงยุโรปด้วย การโจมตีรัสเซียอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้รัสเซียยิ่งถูกบีบรอบด้าน จนถึงเวลาที่ต้องสะสางให้ศึกนี้จบสิ้นไป
แต่ไม่ว่าการสู้รบ จะนำพาไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่นั้น ก็พบว่ายังมีแผนการของสหรัฐฯ ที่พร้อมปั่นให้หลายประเทศ เดือดต่อเนื่อง เพื่อต้องการค้าอาวุธสงคราม ขณะที่เบน ฮอดจ์ส อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในภาคพื้นยุโรป เชื่อว่าการปลดปล่อยแหลมไครเมีย ที่ถูกรัสเซียยึดครอง มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีหน้า
รวมทั้งมีรายงานด้วยว่า หากรัสเซียไม่พ่ายแพ้ในสงครามหนนี้ สหรัฐฯก็พร้อมจะลากประเทศอื่น ให้สู้จนโค่นรัสเซียได้ในเร็ว ๆ นี้อีกแน่ โดยเบน ฮอดจ์ส อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในภาคพื้นยุโรป กล่าวว่า “เมื่อผมมองไปที่สถานการณ์ ผมเห็นสถานการณ์ที่ฝ่ายรัสเซียกำลังย่ำแย่ลงในทุกสัปดาห์ มีคนบอกว่าสงครามคือบททดสอบความมุ่งมั่นและโลจิสติกส์ และทั้งสองอย่าง ยูเครนเหนือกว่ามาก” อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯประจำภาคพื้นยุโรปให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ FAZ
เขากล่าวต่อว่า พวกรัสเซียจำเป็นต้องพ่ายแพ้ในสงครามนี้ มิเช่นนั้นพวกเขาจะพยายามอีกครั้งใน 2 หรือ 3 ปี ตามมุมมองของ ฮอดจ์ส เชื่อว่าความหวังเดียวของผู้นำรัสเซียก็คือตะวันตกจะเลิกให้การสนับสนุนยูเครน ดังนั้นพวกเขาจึงกำลังทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อลากยาวสงคราม และแพร่กระจายความหวาดกลัวและความไม่มั่นคงในตะวันตก ในนั้นรวมถึงการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในตะวันตก
ผมเชื่อว่า เพราะฉะนั้นเราอาจเห็นการลอบก่อวินาศกรรมและการโจมตีต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น หรืออย่างน้อยก็เป็นความพยายาม ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนข้างหน้า
ความเห็นของ ฮอดจ์ส มีขึ้นท่ามกลางความปราชัยในหลายสมรภูมิของรัสเซียที่มีต่อกองกำลังยูเครน หลังถูกเคียฟ ที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากตะวันตก เปิดฉากโจมตีตอบโต้สายฟ้าแลบเมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตามทาง ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ระบุว่ารัสเซียยังคงยึดมั่นในเป้าหมายทางทหารในยูเครน แม้ตะวันตกให้การสนับสนุนประเทศแห่งนี้ เปสคอฟ ชี้ว่า “นาโต้ได้เข้ามามีส่วนร่วมโดยพฤตินัยในความขัดแย้งแล้ว แต่มันจะไม่มีอิทธิพลกับเป้าหมายต่าง ๆ ของรัสเซีย” รัฐบาลเยอรมนีและรัฐสมาชิกนาโต้อื่น ๆ บอกว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในสงคราม และการมอบความช่วยเหลือแก่ยูเครนคือการมอบแรงสนับสนุนด้านสิทธิในการป้องกันตนเองของประเทศแห่งนี้ ที่มุ่งมั่นเข้าร่วมอียูและนาโต้