จากที่วันนี้ 17 ตุลาคม 2565 Blockdit WorldUpdate เปิดเผยถึงสถานการณ์ในอังกฤษที่กำลังมีการชุมนุมประท้วงในภาวะค่าครองชีพสูง รวมทั้งการขับไล่ผู้นำประเทศ เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น
ทั้งนี้เนื้อหาที่ Blockdit WorldUpdate ได้นำมาโพสต์เผยแพร่ ระบุที่มาจาก Nasdaq โดยมีข้อความที่สำคัญอย่างน่าชวนติดตามไว้บางช่วงว่า
“สหราชอาณาจักร ตั้งแค่คว่ำบาตรพลังงานรัสเซียเป็นต้นมา ก็เผชิญภาวะเงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ท่ามกลางปัญหาทางการเมืองที่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีบ่อยเป็นว่าเล่น
เกิดฝูงชน ลงท้องถนนจากสาเหตุสารพัด ตั้งแต่ต้องการแยกเอกราช ราคาพลังงานแพง ขอขึ้นค่าจ้าง จนถึงการสลับการนัดงานของสหภาพแรงงานต่างๆ จนสภาพอังกฤษตามนี้ย่ำแย่อย่างมาก
กองทุนบำเหน็จบำนาญก็ส่อจะล้มละลาย ธนาคารกลางอังกฤษต้องใช้เงินพยุงกว่า 65,000 ล้านปอนด์ ก็ละลายหายวับไปในเวลาอันรวดเร็ว จนไม่ไหวจะต้องหยุดอุ้มกองทุน ยอมปล่อยเลยตามเลย
National Grid ผู้รับผิดชอบระบบไฟฟ้าสหราชอาณาจักร ระบุว่าหากไม่สามารถนำเข้าไฟฟ้าจากชาติในยุโรป และพยายามหาทางนำเข้าพลังงานให้กับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง คาดว่า ในฤดูหนาวนี้อาจเผชิญกับการตัดกระแสไฟฟ้าเป็นเวลา 3 ชั่วโมง/วัน สำหรับบ้านและธุรกิจ
Ofgem ผู้ควบคุมพลังงานของอังกฤษ ระบุว่าครัวเรือนในอังกฤษควรลดการใช้ก๊าซและไฟฟ้าในฤดูหนาวนี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนและลดความเสี่ยงของการตัดกระแสไฟฟ้า
ทำให้ชาวอังกฤษ ที่เคยสุขสบายพลังงานเหลือเฟือมาตลอด ต้องเตรียมพร้อมรองรับการขาดไฟฟ้า โดยการไปซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบพกพา เทียนไข ไฟฉาย เสื้อผ้ากันหนาว ชุดชั้นในเก็บความร้อน
โฆษกของ Toolstation ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ระบุว่าในช่วง 11 วันแรกของเดือน ต.ค. เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่ายอดขายเครื่องปั่นไฟเพิ่มขึ้นถึง 203% เทียนไขและไฟฉายคาดหัวเพิ่มขึ้น 43%
แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนว่า National Grid จะดับไฟฟ้าในฤดูหนาวนี้ช่วงวันใด แต่ชาวอังกฤษกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนี้ โดยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้น้ำมันขนาดพกพาที่ใช้จ่ายไฟฉุกเฉินให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น โคมไฟ เครื่องทำความร้อน พัดลม และทีวี ขายดีมาก
นักวิจัยตลาด Kantar รายงานว่าชาวอังกฤษกำลังซื้อกักตุนเทียนไขและผ้านวมไว้จำนวนมากขึ้น เครือห้างสรรพสินค้า John Lewis ระยุว่า ชาวอังกฤษกำลังซื้อสะสมชุดชั้นในเก็บความร้อน ถุงมือ และเสื้อคลุมเพิ่มเช่นกัน
จากกรณีนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัส แห่งอังกฤษ ประกาศนโยบายว่า “จีนเป็นภัยคุกคามต่อสหราชอาณาจักร” ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในจุดยืนนโยบายของประเทศครั้งใหญ่นั้น บรรดาธุรกิจต่างๆ เริ่มเผ่นออกจากอังกฤษแล้ว เพราะนโยบายแบบนี้ธุรกิจเขาอยู่ไม่ได้แน่
ล่าสุดบริษัท BMW ได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นมินิ จากอังกฤษไปจีนแล้ว เพราะทนกับต้นทุนค่าพลังงาน และวิกฤติขาดแคลนไม่แน่นอนระยะยาวไม่ไหวจากนโยบายคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย โดยจะไปเริ่มดำเนินการในจีนปี 2024
อังกฤษ ไม่ได้มีอำนาจเหมือนครารุ่งเรืองพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินอีกแล้ว ไม่มีอำนาจต่อรองใครได้ เพราะแม้แต่ชาติในสหภาพยุโรป ก็ไม่มีอยากช่วยอังกฤษ เพราะทำไว้เจ็บสมัยที่หนีออกจาก EU ไปช่วงวิกฤติเศรษฐกิจจากกรีซ จนลุกลามไปทั้ง EU
ตอนนี้ไปขู่ขอพลังงานจากใครก็ไม่มีใครกลัว เคยไปขอจากซาอุดิอาระเบียมาแล้ว ก็กินแห้วกลับบ้าน ปัญหาขาดพลังงานจะทำให้อังกฤษจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ ไม่มีทางแก้ได้เลย
ยามเข้าตาจนสหรัฐ ก็จะไม่ขนพลังงานราคาถูกมาให้อังกฤษเช่นกัน ยามยากอังกฤษ จึงปราศจากมิตรแท้ข้างกายคอยช่วย เพราะเคยไปทำกับคนอื่นไว้มาก”