หลังจากที่มีรายงานความเคลื่อนไหวของการรบของกองทัพยูเครน ที่สถานการณ์ตอนนี้อาจจะเรียกได้ว่าจนตรอก เพราะกองทัพยูเครนต้องใช้เครื่องบินรบสกัดกั้นโดรนรัสเซีย ระยะนี้กองทัพยูเครนจึงต้องรบอย่างอนาถา เพราะไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขณะที่การเดินหน้าถล่มยูเครนของรัสเซีย ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
โดยดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้วิเคราะห์ถึงเรื่องนี้ไว้ว่า รัสเซียใช้เครื่องบินยุทธศาสตร์ Tu-95MS บินขึ้นจากค่ายทหารแถบทะเลคาสเปียน ถล่มคลังแสงของยูเครนที่เมืองโอเดสซา และคลังแสงที่นั่นก็ถูกรัสเซียทำลายได้อีกครั้งด้วย
ท่ามกลางการเปลี่ยนแผนใหม่ที่ตอนนี้รัสเซียหยุดเกณฑ์กำลังพลทหาร แต่บรรดากูรูที่ติดตามข่าวสงคราม ต่างมองว่า ยังมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น และรัสเซียอาจจะใช้ช่วงเวลาก่อนการเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการเพื่อทำอะไรสักอย่าง ที่จัดการยูเครน
ล่าสุดได้มีกระแสข่าวที่ว่า ทางการจีนได้ส่งข้อความไปยังพลเมืองจีนที่อาศัยในยูเครน ให้รีบเดินทางออกจากที่นั่นทันที ทำให้มีประชากรจีนส่วนหนึ่ง อพยพออกจากยูเครน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อหากต้องการความช่วยเหลือ นี่จึงเป็นชนวนเหตุหนึ่ง ที่หลายฝ่ายเกิดคำถามว่า จีนรู้อะไรมา หรือมีข่าวเด็ดวงในใด ๆ หรือไม่ เพราะรบกันครึ่งปีกว่า ทำไมต้องเร่งออกประกาศให้อพยพด่วนตอนนี้ เหมือนเหตุการณ์ที่สหรัฐฯส่งให้ประชากรของตัวเองอพยพออกมาจากรัสเซียและยูเครน ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ แล้วตามมาด้วยเหตุการณ์ถล่มสะพานไครเมีย และการถล่มเอาคืนเคียฟแบบดุเดือด
ความเคลื่อนไหวรอบนี้ก็เช่นกัน ที่ทำให้ผู้ติดตามข่าวรัสเซีย-ยูเครน ต่างมองว่า จะต้องมีการเคลื่อวไหวเกมรบเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และอาจจะนำพาไปสู่สัญญาณเดือดอีกครั้ง ที่รัสเซียจะเร่งตียูเครนให้แตกพ่าย แม้ว่าสหรัฐฯจะรู้ว่า รัสเซียไม่มีวันปล่อยให้ยูเครนชนะ และเอาดินแดนคืนไปได้ แต่สหรัฐฯก็เลือกจะยื้อสงครามไว้ให้นานออกไป แม้ว่ายูเครนจะไม่ไหว ก็ต้องสู้ต่อ
และไม่เพียงแต่จะมีสงครามบนสนามรบเท่านั้น เพราะเรื่องอาหาร และวัตถุดิบต่าง ๆ ก็ยังมีปัญหาบานปลาย ระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยนายเกนนาดี กาติลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวเตือนและเรียกร้องต่อนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ว่า รัสเซียอาจถอนตัวจากข้อตกลงอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการส่งออกข้าวยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาอาหารโลกขาดแคลน โดยระบุว่า ในข้อตกลงดังกล่าวยังรวมถึงการลดอุปสรรคการส่งออกข้าวและปุ๋ยของรัสเซียด้วยเช่นกัน แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่ไม่ได้หมายความว่า รัสเซียจะไม่เอาจริง