โดยทางด้านของเพจสาธารณะ World Update ได้เปิดเผยถึงประเด็นล่าสุด หลังจากที่สภาพของประเทศฝั่งยุโรปเริ่มดุเดือด แตกคอกันอย่างหนัก โดยมีรายละเอียดว่า
เมื่อสัปดาห์ก่อนนายเซอร์เกย์ โกนาเชนคอฟ โฆษกของผู้ให้บริการท่อส่งก๊าซ Gazprom รัฐวิสาหกิจรัสเซีย ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนโด่งดังไปทั่วโลกว่า ตรวจพบโดรนทะเลพิฆาตทุ่นระเบิดใต้น้ำของ NATO รุ่น “Sea Fox” อยู่ในช่องว่างระหว่างท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 อย่างชัดเจน
จากนั้นอุปกรณ์ดังกล่าวถูกกองทัพสวีเดน นำออกไปและทำให้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ท่อส่งก๊าซฯ รั่วไหลหยุดลง
ส่วน NATO ออกมาอ้างว่าฟิวส์เซนเซอร์ใต้น้ำหายไประหว่างการฝึกซ้อมรบโดรนทะเลระเบิดใต้น้ำ Sea Fox ดังกล่าว
ตอนแรก เยอรมนี สวีเดน และเดนมาร์ก จึงมีความต้องการจัดทีมสอบสวนร่วมกันเพื่อตรวจสอบการรั่วไหลของท่อส่ง Nord Stream โดยไม่ยินยอมให้รัสเซียมาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วยอ้างว่ารัสเซียถูกคว่ำบาตรอยู่
แต่ต่อมานาง Nancy Faeser รัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมันนี ระบุว่า สวีเดนปฏิเสธการจัดตั้งทีมตรวจสอบนานาชาติแล้ว โดยอ้างว่า “ข้อมูลผลการสอบสวนเป็นชั้นความลับสูงเกินกว่าที่จะแบ่งปันกับประเทศอื่นๆ ได้” ไม่รู้สวีเดน ไปเจอคำขู่ใครมา
ทำให้เยอรมัน ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะท่อก๊าซ Nord stream ปลายไปท่อไปขึ้นฝั่งประเทศตนจนร่ำรวยทางอุตสาหกรรม
จึงแอบจัดส่งเจ้าหน้าที่กองทัพเยอรมันไปที่จุดเกิดเหตุท่อส่ง Nord Stream ใต้ทะเลโดยไม่แจ้งสวีเดน นักประดาน้ำของเยอรมันนี ที่ลงไปพร้อมกับโดรนใต้น้ำ ระบุว่าส่วนที่มีรอยรั่วของเฉพาะท่อ Nord Stream 1 “มีรอยแยกยาวประมาณ 8 เมตร”
โดยที่ท่อก๊าซมีความเสียหายรอยรั่วรวม 2 จุด ” จากการใช้วัตถุระเบิดรุนแรงเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติหรือสาเหตุอื่นใด”
ขณะนี้ชาวเยอรมนี ได้ออกมาก่อตั้ง “แนวร่วมต่อต้านผู้อพยพลี้ภัยชาวยูเครน” ขับไล่ให้กลับบ้านไป พร้อมตะโกนไล่ว่า “พวกนาซี” จึงเกิดการยกพวก 2 ฝ่ายประจันหน้ากัน
ตำรวจเยอรมันต้องมาคอยกั้นกลางไม่ให้ตะลุมบอนกัน ท่ามกลางภาคอุตสาหกรรมในเยอรมันที่ทะยอยปิดตัวลง เพราะสู้ต้นทุนราคาพลังงานแพงต่อไปไม่ไหวแล้ว
ปัญหาพลังงานขาดแคลนยังลุกลามไปยังฝรั่งเศส ที่คว่ำบาตรรัสเซีย แล้วต้องเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนพลังงานอย่างหนักเสียเอง รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาโวยวายสหรัฐที่ฉวยโอกาสขายพลังงานแพงให้ยุโรป
ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ระบุว่าถ้ายูเครนถูกรัสเซียเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่ทำอะไรตอบโต้รัสเซียทั้งนั้น เพราะไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์พื้นฐานใดๆ เลยของฝรั่งเศส
ขณะนี้คนงานโรงกลั่นน้ำมันในฝรั่งเศส ได้นัดหยุดงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าแรงอีก 10% ให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำมันที่ถูกผลิตในฝรั่งเศสลดลงกว่า 60%
ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศส จนแต้มต้องปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ยามสงครามออกมาใช้ รวมถึงต้องเพิ่มปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศมากขึ้น ขาดดุลการค้าหนักไปอีก
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 58 แห่งก็พังไปแล้วราว 50% ยังแก้ไขไม่ได้ แร่ยูเรเนียมก็ยังต้องนำเข้าจากรัสเซียอยู่ดี ยูเครน ก็โวยวายว่าให้ยุโรป หยุดการนำเข้าแร่ยูเรเนียมรัสเซียไปใช้ผลิตไฟฟ้า ถ้าไฟฟ้าดับมืดก็ทนเอาแบบยูเครน
การเมืองฝรั่งเศสก็ถึงทางตัน เพราะพรรครัฐบาลฝรั่งเศสแพ้เลือกตั้งจากปัญหาพลังงานแพง จึงครองเสียงข้างน้อยในสภา ออกกฎหมายเองไม่ได้เลย ต้องเจรจาง้อฝ่ายค้านให้ช่วยโหวตให้
เกิดติดล็อคทางการเมือง จนประธานาธิบดีมาครง ปวดหัวและบ่นอยากจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่ก็กลัวรัฐบาลแพ้เลือกตั้งเสียอำนาจไปอีก ก็เลยคาราคาซังทู่ซี้ อยู่แบบนี้
การเมืองฝรั่งเศสก็ถึงทางตัน เพราะพรรครัฐบาลฝรั่งเศสแพ้เลือกตั้งจากปัญหาพลังงานแพง จึงครองเสียงข้างน้อยในสภา ออกกฎหมายเองไม่ได้เลย ต้องเจรจาง้อฝ่ายค้านให้ช่วยโหวตให้
เกิดติดล็อคทางการเมือง จนประธานาธิบดีมาครง ปวดหัวและบ่นอยากจะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แต่ก็กลัวรัฐบาลแพ้เลือกตั้งเสียอำนาจไปอีก ก็เลยคาราคาซังทู่ซี้ อยู่แบบนี้
กว่าจะได้เติมน้ำมันคนใช้รถต้องตระเวนไปยังปั๊มน้ำมันแห่งต่างๆ ถึง 5 – 6 ปั๊ม เนื่องจากมีหลายปั๊มปิดชั่วคราว คนที่รอคิวไหวกว่าจะได้เติมน้ำมันก็ต้องรอคิวนานร่วมชั่วโมงเสียเวลาทิ้งไปเปล่าประโยชน์
และยังมีสารพัดม็อบหลากหลาย ออกมาด้วยความโกรธปัญหาพลังงานแพงและขาดแคลน ปะทะกับตำรวจไม่เว้นแต่ละวัน
สถานการณ์ในฝรั่งเศสกำลังวิกฤติย่ำแย่ลงทุกวัน แต่รัฐบาลฝรั่งเศส ก็ยังยืนยันปากแข็งว่าปัญหาวิกฤติร้ายแรงของชาติและประชาชนนี้ไม่ได้เกิดจากการคว่ำบาตรรัสเซีย..ดื้อปากแข็งต่อไป..ใช้ม้าลาลากจูงรถแน่นอน