จากที่วันนี้ 15 ตุลาคม 2565 Blockdit World Update รายงานถึงสถานการณ์ในอังกฤษ ภายหลังจากได้ผู้นำคนใหม่ กระทั่งเกิดม็อบประท้วงถึงปัญหาค่าครองชีพ มีการขับไล่รัฐบาล เรียกร้องให้เลือกตั้งใหม่นั้น
ทั้งนี้โดยเนื้อหาที่ Blockdit World Update ได้นำมาโพสต์เผยแพร่ไว้ ระบุถึงแหล่งที่มาไว้อย่างน่าติดตามว่า “ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้นำอังกฤษ ออกคำสั่งปลดนายโคนอร์ เบิร์นส์ รัฐมนตรีการค้า ด้วยข้อหา แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากช่วงประชุมพรรคที่โรงแรมไฮแอทรีเจนซี ในเบอร์มิงแฮม อดีตรัฐมนตรีเบิร์นไปดื่มที่บาร์ของโรงแรมในช่วงกลางคืน
นายเบิร์นส์ ได้ออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมายใดๆ จะเรียกชื่อเสียงของเขากลับคืนมา บรรดา ส.ส.เพื่อนของเขาต่างพากันไม่พอใจมาก เพราะเขาเป็น ส.ส.เก่ามาตั้งแต่ปี 2010 และเขาเคยเป็นรัฐมนตรีในยุคอดีตนายกฯ บอริส จอห์นสัน ทำให้มีบารมีเลี้ยง ส.ส.ไว้มาก เพื่อน ส.ส.เขาจึงพากันโจมตีผู้นำหญิงอังกฤษว่า พรรคเร่งรีบเกินไปที่จะปลดนายเบิร์นส์
ล่าสุดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษ เดินทางไปประประชุม IMF ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐ เพื่อพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้ยูเครน ที่ผิดนัดขำระหนี้จนประเทศส่อจะล้มละลาย ต้องใช้เงิน IMF มาอุ้มประคองไว้ก่อนตามที่สหรัฐฯ กำกับบท
เขาได้รับแจ้งขณะประชุมว่าให้รีบบินกลับลอนดอนด่วน เมื่อเขากลับมาถึงและไปบ้านพักนายกอังกฤษ ไม่กี่นาทีต่อมา นายกฯ ลิซ ทรัสส์ ได้บีบบังคับให้เขาเขียนจดหมายลาออกจากตำแหน่งทันทีจะได้ไม่อับอายที่ถูกปลด
โดยคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่คือ นายเจอรีมี ฮันส์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีสาธารณสุข อดีตคู่ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ นั่นเอง นี่แสดงถึงระบบ “เก้าอี้ดนตรีสมบัติผลัดกันชม” เพื่อลดแรงต่อต้าน
ผู้นำอังกฤษ จึงต้องปรับ ครม.ดึงหัวหน้ามุ้งต่างๆ ในพรรคมาเป็นรัฐมนตรี จะได้ลดแรงกระเพื่อมประคองตำแหน่งผู้นำที่ร่อแร่ต่อไปได้ แค่ไม่กี่เดือนอังกฤษเปลี่ยนรัฐมนตรีมา 4 คนแล้ว
ผลโพลประชาชนแสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนพรรคอนุรักษ์นิยมได้ล่มสลายลงไปแล้วคะแนนนิยมต่อนายกฯ ทรัสส์ ตกต่ำสุดขีด กระตุ้นให้เพื่อนร่วมงานในพรรคหาวิธีที่จะบังคับให้เธอออกจากตำแหน่ง เธอจึงต้องหาแพะรับบาปแทนโดยปลดรัฐมนตรี
การเปลี่ยนรัฐมนตรีของเธอ เป็นแค่แก้ปัญหาทางการเมืองในพรรคเท่านั้น แต่ไม่ได้แก้ปัญหาของประชาชน ถ้าเธอยังไม่พบวิธีที่จะลดค่าใช้จ่ายพลังงานราคาแพงลิ่ว
สิ่งที่รัฐบาลอังกฤษ จำเป็นต้องทำขณะคลังถังแตกตอนนี้คือ ต้องหาเงินราว 60,000 ล้านปอนด์มาเติมคลังให้เร็วที่สุด การใช้หนี้ภาครัฐ และการลดการใช้จ่าย
ขณะนี้อัตราภาษีนิติบุคคลในอังกฤษสูงมากถึง 19% หากเพิ่มเป็น 25% ตามแผนหาเงินเข้าคลัง ก็จะหาเงินเพิ่มให้รัฐ 18,700 ล้านปอนด์ภายในปี 2026 ในอีก 4 ปีหน้า แต่จะเกิดการต่อต้านครั้งใหญ่จากนักลงทุนให้ลงขันคว่ำรัฐบาล ในขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ เตรียมที่จะยุติการแทรกแซงในตลาดทองคำ
ความปั่นป่วนทางการเมืองของอังกฤษ เพิ่งเริ่มในยุคของนายกฯ ทรัสส์เท่านั้น ยังจะต้องต่อสู้ทางการเมืองหนักและวุ่นวายขึ้นกว่านี้อีกมาก ท่ามกลางท้องถนนที่เต็มไปด้วยม็อบประชาชน จึงมีผู้เตือนนายกฯ ทรัสส์ ว่าอย่าเพิ่งเอาของออกจากกระเป๋าในบ้านพัก เพราะฤดูหนาวนี้อาจไม่ได้ฉลองคริสต์มาสที่บ้านประจำตำแหน่งหลังนี้”