วากเนอร์บุกปักธงยึดบัคมุต ตะเพิดทหารยูเครนโกยแอบป่าชานเมือง ตามกวาดถล่มไม่ยั้ง

จากรายงานข่าวเปิดเผยถึงสถานการณ์ของยูเครนที่ได้เดินหน้ายึดเมืองคืนทางตะวันออก โดยทางการยูเครนเดินหน้ายึดคืนพื้นที่จากรัสเซียในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศนั้น

ทั้งนี้รายงานยังระบุถึงความเคลื่อนไหวในเมืองบัคมุต (Bakhmut) ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านสำคัญระหว่างภูมิภาคโดเนสตก์ไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ที่มีรายงานการปะทะอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับผู้บัญชาการทหารฝ่ายยูเครนคนหนึ่งระบุว่า การรบที่เมืองบัคมุตมีความสำคัญ เพราะนี่คือพื้นที่ยุทธศาสตร์

ล่าสุดวันนี้ 15 ตุลาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล  ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงความคืบหน้าในเหตุการณ์เมืองบัคมุตว่า

“กลุ่มวากเนอร์ของรัสเซียกำลังกวาดล้างกลุ่มทหารยูเครนที่เหลืออยู่ในเมืองบัคมุตอย่างเข้มข้น ดูภาพเอาเองครับว่าเข้มข้นขนาดไหน”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ดร.ปฐมพงษ์ โพสต์ถึงสถานการณ์ไว้สำหรับการสู้รบในเมืองบัคมุต ที่น่าติดตามว่า “รายละเอียดเพิ่มเติมที่บัคมุต:

๑.กองทัพวากเนอร์ของรัสเซียยกธงที่เสาหอกระจายเสียงของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอยู่โซนอุตสาหกรรมด้านตะวันออกของเมืองบัคมุต

๒.กองทัพส่วนใหญ่ของยูเครนได้ล่าถอยออกไป ยังมีปะทะกันประปรายกับส่วนที่เหลือ โดยเฉพาะที่ย่าน Soledar นั่นแปลว่ากองทัพวากเนอร์ของรัสเซีย ยังยึดหรือควบคุมพื้นที่ได้ไม่หมด กำลังตามกวาดล้างกองทัพยูเครนที่เหลืออยู่

๓.ในบริเวณย่าน Artyomovsk กองทัพวากเนอร์กำลังกระจายกำลังโอบเข้าตี ๒ ด้านคือด้านภาคเหนือและภาคตะวันตกเฉียงใต้”

อย่างไรก็ตามเมื่อสำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ และสปุ๊ตนิกรายงานด้วยว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ประกาศแต่งตั้งพลเอกเซอร์เก ซูโรวิคิน (Sergey Surovikin) แม่ทัพศึกในซีเรียเป็นผู้บังคับบัญชาการปฏิบัติการร่วม 3 เหล่าทัพ

แถลงการณ์ระบุว่าจากการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซีย นายพลเซอร์เก ซูโรวิคิน แห่งกองทัพบกได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการกลุ่มร่วมของกองกำลังในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร

นอกจากนี้ เยฟเกนี ปรีโกชิน (Yevgeny Prigozhin) ผู้นำกลุ่มวาร์กเนอร์ (Wagner PMC) ก็พูดถึงผู้บัญชาการร่วมคนใหม่เช่นกัน “ซูโรวิคิน เป็นผู้บัญชาการที่เก่งที่สุดในกองทัพรัสเซีย สำหรับคุณสมบัติส่วนตัวของเขา ผมสามารถพูดได้อย่างหนึ่งว่า เขาเป็นบุคคลในตำนาน เกิดมาเพื่อรับใช้มาตุภูมิอย่างซื่อสัตย์ ไม่ใช่คนที่แค่ใส่เครื่องแบบให้ดูสวยงามเท่านั้น”