หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ ออกมายอมรับว่า ตนเองนั้นเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 มีความเป็นไปได้ เพราะความเขลาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เกี่ยวกับเรื่องสงครามยูเครน จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแน่นอน
ตามมาด้วยการเปิดฉากซ้อมรบนิวเคลียร์ของนาโต้ ที่อ้างว่าซ้อมเป็นปกติ หลังจากที่รัสเซียถล่มเคียฟอย่างหนัก ก่อนหน้านี้ และในเมื่อนาโต้ประกาศว่าจะซ้อมรบ สัญญาณแรกที่เกิดขึ้นคือ รัสเซียก็ประกาศว่าจะซ้อมรบนิวเคลียร์ เพื่อพร้อมตอบโต้กลับเช่นกัน ทำให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวว่าจะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการซ้อมรบนิวเคลียร์ของรัสเซียที่กำลังมาถึง แต่จะไม่หงอถอนการสนับสนุนยูเครนตามคำขู่นิวเคลียร์อ้อม ๆ ของมอสโกแน่นอน
“เราจะไม่ยอมถูกข่มขู่” เยน สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของพันธมิตรเป็นเวลา 2 วัน “โวหารทางนิวเคลียร์ของรัสเซียนั้นอันตราย ขาดความยั้งคิดและพวกเขาควรรู้ไว้เลยว่าหากพวกเขาใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครนมันจะก่อผลสนองร้ายแรง”
สัญญาณที่สอง คือ รัสเซียเตือนว่าหากยูเครนได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่นำโดยสหรัฐ ความขัดแย้งในยูเครนจะบานปลายไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน รวมไปถึงการยกระดับเกมรบ ที่รัสเซียลุยถล่มเมืองนับสิบ ในยูเครนภายระยะเวลาไม่กี่วัน เพื่อตอบโต้เหตุถล่มสะพานไครเมียก่อนหน้านี้
ขณะที่ สัญญาณที่สาม ในเฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ได้โพสต์ข้อความไว้ว่า ฤาใกล้จะถึง #WWIII สมัชชารัฐสภาคณะมนตรียุโรป #PACE มีมติให้ รัสเซีย เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบการก่อการร้าย โดยคำกล่าวเรื่องการก่อการร้าย รัสเซียเคยประกาศผ่านสื่อ ในวันที่ยูเครนออกมายอมรับกลาย ๆ ว่า เป็นฝ่ายของตนเองที่ถล่มสะพาน ปูตินกล่าวว่า นี่คือการก่อการร้ายเช่นกัน แต่ไม่มีใครออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนาโต้และสหรัฐฯ รวมไปถึงยุโรปด้วย การโจมตีรัสเซียอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้รัสเซียยิ่งถูกบีบรอบด้าน จนถึงเวลาที่ต้องสะสางให้ศึกนี้จบสิ้นไป
อย่างไรก็ตาม ยิ่งรัสเซียเริ่มโจมตีเดือดมากขึ้น และบางประเทศก็เตรียมพร้อมรับมือกับรังสีจากอาวุธนิวเคลียร์ ยิ่งมีความเป็นไปได้ชัดมากขึ้น เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ และเมื่อมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์เกิดขึ้น แน่นอนว่าหลายฝ่ายคงพร้อมตอบโต้รัสเซียด้วยเช่นกัน แต่ในเวลานี้นาโต้ยังเปิดเผยว่า ฝ่ายของตนเองนั้น ยังไม่พร้อมที่จะเปิดศึกกับรัสเซีย