สงครามในยูเครนได้ยกระดับอย่างไม่เป็นทางการ นับตั้งแต่ระเบิดสะพานไครเมียที่รัสเซียประกาศเป็นการก่อการร้ายโดยหน่วยงานความมั่นคงยูเครน ทั้งโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียและ มีแผนการเตรียมก่อวินาศกรรมท่อส่งน้ำมันของรัสเซียที่ส่งไปยังตุรเคียอีกด้วย ขณะเดียวกันมีการตีพิมพ์เผยแพร่แผนที่ใหม่ของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์, สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์, ภูมิภาคเคอร์ซอนและซาปอริชเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศและนำออกวางจำหน่ายตามห้างร้านทั่วประเทศแล้ว
ล่าสุดเมื่อนาโต้เสียงสั่นขู่เตรียมซ้อมรบนิวเคลียร์เอิกเกริก รัสเซียได้ออกประกาศ โนแทม (NOTAM) หรือคำเต็มคือ Notice to Airmen or Notice to Air Missions
เป็นการประกาศเตือนนักบินหรือประกาศถึงภารกิจทางอากาศ ที่ยื่นต่อหน่วยงานด้านการบินเพื่อแจ้งเตือนนักบินและเครื่องบินถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นตามเส้นทางการบินหรือในสถานที่ที่อาจส่งผลต่อเที่ยวบิน เพื่อปิดกั้นพื้นที่หลายแห่งในทะเลแบเร้นท์ (Barents Sea) ของรัสเซียตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๕ ตุลาคม
คาดว่าเป็นการทดสอบขีปนาวุธระยะไกล RS-28 SARMAT (“Satan II”) นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการเคลื่อนขบวนรถของขีปนาวุธข้ามทวีป RS-24 “ยาร์ส(Yars)” เพื่อเตรียมพร้อมในการฝึกซ้อมรบ สามารถบรรทุก ๒๐ หัวรบ ยิงได้ถึงเมกาครอบคลุมเป้าหมายตลอดแนวชายฝั่งแอตแลนติก บอกเป็นนัยว่ารัสเซียหรือจะเกรงนาโต้
วันที่ ๑๔ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้รายงานผลการสู้รบโดยสรุปในภูมิภาคต่างๆวันที่ ๑๓ ต.ค. ว่า ในภูมิภาคคาร์คอฟ กองกำลังรัสเซียทำลายรถถัง ยานเกราะของยูเครน ๑๔ คันทหารยูเครนเสียชีวิต ๕๐ นาย การต่อสู้ที่ลิมัน ได้ทำลายยานรบทหารราบและรถถัง ๙ คันทหารยูเครนเสียชีวิต ๖๐
ภูมิภาคเคอร์ซอน ทำลายยานเกราะต่อสู้ยูเครน ๒๑ คันและยานยนต์พิเศษ ๑๒ คัน ทหารยูเครนดับกว่า ๑๑๐ นาย
การต่อสู้ในโดเนตสก์ (DPR), ซาโปริชเชีย(Zaporozhye) และนิโคลาเยฟ Nikolayev; ทำลายคลังอาวุธยูเครน ๕ แห่ง ในภูมิภาคเนโปรเปตรอฟ(Dnepropetrovskทำลายเครื่องบิน MIG-29 ของยูเครน, ในภูมิภาค Poltavaทำลาย Su-27 ;
โดยรวมได้ทำลาย UAV ของยูเครน ๑๒ ลำ รวมถึงสกัดกั้นจรวด HIMARS และโอลคา (Olkha) จำนวน ๑๖ ลำ และขีปนาวุธ HARM ๑๐ ลำ เรียกว่าเมกา-นาโต้ส่งมาเท่าไหร่ รัสเซียเก็บเรียบไม่เหลือ ดูเหมือนว่าประกาศจะส่งมาอีก โดยเฉพาะระบบป้องกันภัยทางอากาศ
ด้านยูเครนและผู้อุปถัมภ์หลัก ทั้งสหรัฐและนาโต้ออกมาแอ็คชั่นรัวๆ ปากก็ว่ารัสเซียขู่ขวัญโลกด้วยนิวเคลียร์ นาโต้ไม่กลัวและจะตอบโต้อย่างสาหัส และเรียกซ้อมรบนิวเคลียร์ในประเทศสมาชิก แต่รมว.กลาโหมสหรัฐกลับออกมาเบรคหัวทิ่มว่า เมกาไม่เกี่ยวไม่ต้องการชนกับรัสเซีย
รมช.กระทรวงกลาโหมยูเครน อเล็กซี่ เรสนิคอฟ (Aleksey Reznikov) กล่าวว่ายูเครนเข้าร่วมนาโต้โดยพฤตินัยแล้ว เขากล่าว่า “เคียฟมีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อ “ความมั่นคงของโลกเสรีตะวันตก”
เขาออกแถลงการณ์ในทวีตหลังจากพบปะกับนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มในบรัสเซลส์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรียูเครนระบุว่า “เรามาไกลและได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรโดยพฤตินัยแล้ว”พร้อมขอบคุณ Stoltenberg ที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่
ประเทศสมาชิกนาโต้มีเพียง ๙ ประเทศที่สนับสนุนใบสมัครของยูเครน ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาซิโดเนียเหนือ มอนเตเนโกร โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกีย ซึ่งทำให้การเป็นสมาชิกนาโต้อย่างเป็นทางการเป็นไปไม่ได้เพราะต้องได้รับการลงมติเอกฉันท์จากสมาชิก ๓๐ ประเทศ
ด้านรัสเซีย ออกมาวิจารณ์แหลกเหมือนกัน แม็กซิม บูยาเควิช (Maxim Buyakevich) รองทูตรัสเซียประจำองค์กร OSCE ชื่อเต็มว่า องค์กรเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) เขาวิเจารณ์ว่า องค์กรนี้ไม่ประณามต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายและการสังหารหมู่ ซึ่งกระทำโดยหน่วยพิเศษของยูเครน
เขากล่าวว่า “ไม่เคยได้ยินคำกล่าวประณามแม้แต่คำเดียวจากผู้นำ OSCE เกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย การเตรียมการ ก่ออาชญากรรม และกำลังเตรียมการโดยหน่วยบริการพิเศษของยูเครน รวมถึงการสังหารพลเรือนจำนวนมากในดินแดนที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มทหารยูเครน” “ในทางตรงกันข้าม การสนับสนุนจากสาธารณะโดยตะวันตก ได้ถูกเปล่งออกมาเม้มีการกระทำความผิดทางอาญาโดยระบอบการปกครองของเคียฟ”
นักการทูตรัสเซียกล่าวเสริมว่า การส่งทหารรับจ้างต่างชาติและผู้เชี่ยวชาญทางทหารไปยังยูเครน ก็ไม่สามารถเอาชนะปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียที่กำลังดำเนินการอยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน