จากกรณีที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ได้กล่าวก่อนมีคิวเข้าร่วมประชุมลับของกลุ่มวางแผนนิวเคลียร์ของนาโต้ในวันพฤหัสบดี ที่ 13 ต.ค. ว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ใด ๆ โดยรัสเซีย จะก่อผลลัพธ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกับรัสเซีย และการโจมตีทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เกือบแน่นอนว่ามันจะเรียกการตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมจากพันธมิตรทั้งหลาย และมีความเป็นไปได้ว่าจะมาจากตัวของนาโต้เอง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายนี้เชื่อว่า รัสเซียดูเหมือนจะใช้การข่มขู่ทางนิวเคลียร์ป้องปรามนาโต้และประเทศอื่น ๆ จากการเข้าร่วมโดยตรงในศึกสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนมากกว่า
โดยแนวความคิดดังกล่าว คล้าย ๆ กับไบเดน ที่เริ่มเชื่อว่า ปูตินจะยังไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ และเขาเชื่อว่า ปูติน เป็นผู้ดำเนินนโยบายตามเหตุผลปกติทั่วไป แต่คำนวณพลาดอย่างมหันต์ โดยประมุขเครมลินคิดว่าชาวยูเครนจะต้อนรับรัสเซีย และประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับความเด็ดเดี่ยวดุดันในการต่อต้านของชาวยูเครน ไบเดน ยังไม่เชื่อว่า ปูตินจะใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงตามที่ขู่ ขณะที่สโตลเทนเบิร์กกล่าวกับผู้สื่อข่าวในบรัสเซลส์ว่า นาโต้ไม่พบสัญญาณว่ารัสเซียเปลี่ยนสถานะในเรื่องนิวเคลียร์แต่อย่างใด
แต่ความเคลื่อนไหวในสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครน ถือว่ารัสเซียยังคงใช้อาวุธหนักโจมตียูเครนต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 แม้จะเบาลงกว่า 2 วันก่อน รัสเซียถล่มทั่วประเทศยูเครนด้วยขีปนาวุธรวมแล้วมากกว่า 100 ลูก มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน ทำให้ฝ่ายตะวันตกบอกว่า การถล่มโจมตีของรัสเซียเป็นการเร่งรัดให้พวกเขาจัดส่งอาวุธป้องกันภัยทางอากาศให้แก่เคียฟ โดยในวันอังคารที่ 11 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา เยอรมนีแจ้งว่าได้จัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ IRIS-T SLM ชุดแรกจากที่มีแผนจัดส่งให้ยูเครน 4 ชุด ขณะที่อเมริกาเผยว่า กำลังเร่งจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ NASAMS ให้เคียฟอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตามฝ่ายรัสเซีย ได้ออกมาเตือนว่า จะตอบโต้หนัก จากการที่ตะวันตกแสดงตัวเป็นพวกเดียวกับยูเครนในการสู้รบขัดแย้งคราวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และการกระหน่ำโจมตีของรัสเซียระลอกล่าสุด มุ่งเล่นงานพวกโรงไฟฟ้า และพยายามที่จะตัดขาดการสื่อสารต่าง ๆ ในยูเครนให้ได้มากที่สุด อาวุธของรัสเซียนั้นยังมีเหลือในคลังอีกมาก แม้ว่าสงครามจะล่วงเลยเข้ามาสู่เดือนที่ 8 แล้วก็ตาม งานนี้แม้ว่าไบเดนจะมองว่า ปูตินคงแค่ขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ แต่แท้จริงสหรัฐฯน่าจะรู้ดีที่สุด ว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่สั่งการหนุนงบประมาณ ให้ประชาชนตุนยาต้านรังสีเป็นการเร่งด่วนแน่นอน