ยิ่งตอกย้ำสถานการณ์ที่เดือดระอุมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อประชาชนในฟินแลนด์ ออกมากักตุนเม็ดไอโอดีนกันสารกัมมันตภาพรังสี และหลาย ๆ ประเทศทำให้เรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศจะทุ่มเงิน 290 ล้านดอลลาร์ สั่งซื้อยาต้านรังสีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางคำเตือนของผู้นำรายนี้เกี่ยวกับ “แนวโน้มของวันโลกาวินาศ” อันมีชนวนเหตุจากท่าทีของผู้กระหายสงคราม วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ นั่นยิ่งเป็นจุดตอกย้ำ ให้จับตามองว่า รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อจบศึกยูเครนหรือไม่
เพราะล่าสุดกระทรวงกิจการสังคมและสุขภาพฟินแลนด์หันกลับมาแนะนำให้ประชาชนซื้อเม็ดไอโอดีนกันสารกัมมันตภาพรังสีติดไว้ที่บ้านอย่างเร่งด่วนหลังสงครามยูเครนมีท่าทีบานปลาย
สปุตนิก นิวส์ขอรัสเซียรายงานระบุว่า กระทรวงกิจการสังคมและสุขภาพฟินแลนด์ (Finnish Ministry of Social Affairs and Health) ได้กลับมาแนะนำประชาชนแดนนอร์ดิกให้ซื้อเม็ดไอโอดีน(iodine)ขนาด 1 โดสติดไว้ในครัวเรือนสำหรับทุกคนที่มีอายุระหว่าง 3 ปี – 40 ปีในกรณีฉุกเฉินหากเกิดสารกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์แพร่กระจายอย่างไม่คาดฝันขึ้นมาส่งผลทำให้เกิดการแตกตื่นหาซื้อกันจ้าละหวั่นที่ร้านขายยาและร้านออนไลน์ครั้งใหญ่ท่ามกลางสงครามยูเครนทีมีท่าทีบานปลาย
กระทรวงย้ำในคำประกาศแนวทางที่ไม่ได้มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2002 ว่า เป็นคำแนะนำตั้งอยู่บนพื้นฐานการเสนอแนะล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก WHO
โดยกระทรวงฟินแลนด์ชี้ว่า คำแนะนำเม็ดไอโอดีนถูกจำกัดใช้กับบุคคลที่มีอายุระหว่าง 3 ปี – 40 ปีเป็นเพราะถือว่าช่วงอายุดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงสุดต่อสารกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ ซึ่งจะส่งผลร้ายมากที่สุดต่อกลุ่มเด็ก แถลงการณ์ยังกล่าวถึงที่หลบภัยในร่มนั้นเป็นสิ่งที่สามารถช่วยป้องกันประชาชนจากสารกัมมันตภาพรังสีได้
และในวันเดียวกันหลังจากคำประกาศออกมาพบว่าบริษัทร้านขายยาแบบเครือข่ายยักษ์ใหญ่ของฟินแลนด์ ได้แก่ร้าน Yliopiston และร้าน Apteekki มีรายงานว่าเม็ดไอโอดีนสามารถทำยอดขายได้ถล่มทะลายทั่วประเทศเกือบหมดสต็อกที่มี
เจ้าหน้าที่หัวหน้าบริษัทยายักษ์ใหญ่ในฟินแลนด์ แสดงความเห็นว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในชั่วพริบตานั้นเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับการเพิ่มขึ้นของการจราจรของเว็บไซต์ของเครือบริษัทยาส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าและบางครั้งถึงขั้นล่มสำหรับผู้ใช้บางส่วน อ้างอิงจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ฟินแลนด์ 2 แห่งนี้พบว่ามีความพยายายามในการจัดซื้อเม็ดไอโอดีนเพิ่มแต่ว่ายังไม่มีกำหนดวันที่ออกมาอย่างชัดเจน
แม้ว่าจะมีบางประเทศที่ไม่เชื่อว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ และยังประเมินว่ารัสเซียอ่อนกำลังลงในช่วงเปิดเกมรบเดือดกับกรุงเคียฟ แต่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ กลับเตรียมพร้อมกับสถานการณ์นี้แบบไม่รีรอ ยิ่งทำให้เริ่มชัดเจนแล้วว่า ศึกรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้ แม้จะยังไม่อาจคาดเดาตอนจบได้ แต่การใช้อาวุธนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะฟินแลนด์ก็เป็นอีกประเทศที่มีอาณาเขตไม่ห่างจากรัสเซียมากนัก และเกมการรบในช่วงเวลานี้ ถือว่าดุเดือด ห้ามกระพริบตากันเลยทีเดียว