ปูตินไล่เช็กบิลเดือด! ทางการรัสเซีย รวบแล้ว 8 ผู้ต้อง เอี่ยวเหตุถล่มสะพานไครเมีย หลักฐานชัดโยงคนบงการ

0

จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และระเบิดอย่างรุนแรง บนสะพาน “เคิร์ช” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับช่องแคบในบริเวณนั้น ใช้เป็นเส้นทางสัญจรและขนส่งสินค้าหลัก เชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา

โดยในเวลาต่อมากระทรวงคมนาคมของรัสเซียออกแถลงการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เบื้องต้นคาดว่าเป็นผู้ที่อยู่ในรถยนต์ซึ่งแล่นอยู่ใกล้กับรถบรรทุกคันที่เกิดระเบิด ในขณะเดียวกันยูเครนก็ออกเปิดเผย ว่านี่แค่เริ่มต้น และยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของยูเครน รวมทั้งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อ พร้อมกล่าวหายูเครน ว่าเป็นฝ่ายบงการเหตุระเบิดรุนแรงที่ก่อความเสียหายแก่สะพานหลักที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับแหลมไครเมีย และให้คำนิยามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น “ก่อการร้าย”

ช็อก นาทีบึมสะพานไครเมีย ถล่ม ไฟไหม้ รัสเซียชี้คนร้ายใช้รถ

ล่าสุดหน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (FSB) ได้ประกาศจับกุมผู้ต้องสงสัย 8 คน ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนก่อวินาศกรรม “สะพานเคิร์ช” ที่เชื่อมคาบสมุทรไครเมียกับรัสเซียเมื่อไม่กี่วันก่อน

ทั้งนี้ FSB ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับเป็นพลเมืองรัสเซีย 5 คน และพลเมือง “ยูเครนกับอาร์เมเนีย” อีก 3 คน พร้อมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “วัตถุระเบิดถูกซุกซ่อนมาในม้วนฟิล์มพลาสติก จำนวน 22 ม้วน ซึ่งมีน้ำหนัก 22,700 กิโลกรัม”

ม้วนพลาสติกเหล่านั้นถูกขนลงเรือจากท่าเรือโอเดสซาในยูเครนมุ่งหน้าไปยังบัลแกเรียเมื่อเดือน ส.ค. จากนั้นจึงถูกส่งผ่านท่าเรือโปติ ในจอร์เจีย และถูกลำเลียงผ่านเส้นทางบกไปยังอาร์เมเนีย ก่อนจะเดินทางเข้าไปถึงรัสเซียด้วยเส้นทางรถยนต์ FSB พบว่า วัตถุระเบิดเหล่านี้ถูกขนข้ามแดนเข้าไปยังรัสเซียในวันที่ 4 ต.ค. โดยรถบรรทุกที่ติดป้ายทะเบียนอาร์เมเนีย และเดินทางไปถึงเขตกราสโนดาร์ ในวันที่ 6 ต.ค. หรือเพียง 2 วันก่อนจะเกิดเหตุระเบิดบนสะพานไครเมีย

FSB ยืนยันว่า หน่วยสืบราชการลับยูเครนอยู่เบื้องหลัง “การโจมตีก่อการร้าย” ครั้งนี้ และมีคนของเคียฟคอยประสานกับฝ่ายต่าง ๆ เพื่อที่จะขนวัตถุระเบิดเข้ามายังดินแดนของรัสเซีย เหตุระเบิดขึ้นที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ ที่ 8 ต.ค. ส่งผลให้สะพานรถยนต์และรถไฟที่ทอดข้ามช่องแคบเคิร์ชได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงไหม้รุนแรง สะพานแห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านโลจิสติกส์สำหรับมอสโก เพราะเป็นเส้นทางที่รัสเซียใช้ลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ไปส่งให้ทหารที่สู้รบอยู่ในยูเครน

การระเบิดทำลายสะพานแห่งนี้ยังนับว่าให้ผลในเชิงสัญลักษณ์มากพอสมควร เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน เคยเดินทางไปทำพิธีเปิดด้วยตนเองเมื่อปี 2018

ข่าวการโจมตีสะพานเคิร์ชยังทำให้ฝ่ายยูเครนได้ทีเฉลิมฉลองด้วยความสะใจ ขณะที่รัสเซียออกมาชี้หน้ากล่าวโทษเคียฟและแก้แค้นด้วยการเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงทั่วยูเครน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 19 คน บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน

รัสเซีย ยูเครน : ปธน.ปูติน ย้ำ การโต้กลับของยูเครนไม่ได้ทำให้รัสเซียต้องเปลี่ยนแผน - BBC News ไทย

ปูตินลั่น 4 ดินแดนผนวกใหม่ต้องมีเสถียรภาพ - BBC News ไทย