ภายหลังการเผชิญหน้ากับม็อบประท้วงรายวันของบรรดาผู้นำยุโรป ก็เริ่มนำมาซึ่งการตั้งคำถามของประชาชนว่า พวกเขาจะสามารถรอดพ้นหน้าหนาวนี้ไปได้หรือไม่ เพราะราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนบางประเทศต้องแห่ตุนฟืนเพื่อเอาไว้ใช้ในช่วงหน้าหนาวนี้ ขณะนี้สหภาพยุโรป เหมือนเผชิญกรรมซ้ำซ้อน จากการที่ผู้นำเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับศึกยูเครนมากจนเกินไป อย่างสถานการณ์ในเยอรมันนี เรียกได้ว่าอาการหนัก เพราะมีรายงานกองทัพรถแทร็กเตอร์ล้อยักษ์ยึดถนน ขอก๊าซ น้ำมันราคารัสเซียกันเพียบ แต่ยังจะประท้วงแยกประเทศกันด้วย
ล่าสุดมีรายงานว่า บรรดาผู้นำยุโรป ต่างต้องปวดใจกับราคาพลังงานที่ต้องแพงขึ้นถึง 4 เท่าจากสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจในยุโรป มีการวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ อย่างเด่นชัดในเรื่องการขาย LNG ที่เพิ่มราคา 4 เท่า ของราคาเดิม ในขณะที่การคว่ำบาตรต่อรัสเซียนับตั้งแต่การรุกรานของยูเครนกำลังขัดขวางการค้าโลก ทั้งนี้บรูโน เลอ แมร์ กล่าวว่าเขากลัวว่าอำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้นจะส่งผลเสียต่อยุโรป
เนื่องจากยุโรปไม่ได้นำเข้าก๊าซรัสเซียแล้ว สหภาพยุโรปจึงต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของอเมริกาในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เพียงปีเดียว การส่งออก LNG จากทั่วมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังทวีปเก่ามีจำนวนถึง 27 ล้านตันแล้ว ซึ่งมากกว่า 21 ล้านตันที่ส่งออกในปี 2564 ตามข้อมูลของกลุ่มผู้นำเข้าระหว่างประเทศ ของ LNG (GIIGNL) และในช่วงเวลาเดียวกัน 70% ของการส่งออก LNG ของอเมริกาถูกลิขิตให้ไปยุโรป เทียบกับหนึ่งในสามของปีที่แล้ว เน้นที่โลก
นอกจากนี้ในเฟซบุ๊ก Thanong Fanclub กูรูด้านสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้วิเคราะห์ว่า ทั้งสหรัฐและนอร์เวย์ฉวยโอกาสที่รัสเซียหยุดซับไพลก๊าซให้ยุโรปเพื่อตอบโต้การถูกแซงก์ชั่น ด้วยการขายก๊าซในราคาแพงหูฉี่ เยอรมันกับฝรั่งเศสรู้ซึ่งถึงความเป็นมิตรแท้ของสหรัฐและนอร์เวย์แล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะว่าโง่เอง
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่า หากยุโรปไม่ตาสว่างในตอนนี้ ก็คงต้องยอมทำใจแบกรับราคาพลังงานที่แพงขึ้น หรือจะยอมกลืนน้ำลายตัวเอง กลับไปซบปูติน ซึ่งเชื่อว่ารัสเซียพร้อมอ้าแขนรับ หากยุโรปต้องการเลิกคว่ำบาตร รวมทั้งสหรัฐฯเอง นอกจากจะโขกสับเรื่องราคาก๊าซแล้ว สักวันอาจจะลอยแพยุโรป เพราะก็ยังไม่สามารถหาแหล่งพลังงานที่จะมารองรับได้อย่างเพียงพอ