สถานการณ์ในเมียนมายังดุเดือดไม่ลด แม้“เจ้ายอดศึก” ได้ออกแถลงการณ์ ขอเวลา ๕ เดือน ทำหน้าที่มือประสานสิบทิศ เจรจากับ “กองกำลังติดอาวุธปฏิวัติทุกกลุ่ม” ในเมียนมา ให้หันหน้ามาพบปะเจรจากันทุกฝ่าย เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่กำลังแผ่ลามไปทั่วประเทศ จนบ้านเมืองระส่ำระสายวุ่นวายไม่จบสิ้น ทำชาวบ้านเดือดร้อนต้องลี้ภัยสงคราม และเศรษฐกิจตกต่ำ ในวันเดียวกันที่ประกาศเจตนารมณ์ กองทัพอะรากันก็ยึดฐานในเมืองยะไข่เสมือนส่งสัญญาณว่า ไม่สนเจรจาจะเดินหน้าลุยต่อไป
วันที่ ๑๒ ต.ค.๒๕๖๕ ความคืบหน้าของสถานการณ์ในเมียนมา มีความเคลื่อนไหวทั้งในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน เมื่อวานนี้ (๑๐ ต.ค.๖๕)สภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS/SSA) หรือกองทัพรัฐชานใต้ เผยแพร่เอกสารแถลงการณ์อย่างน้อย 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทใหญ่ ภาษาพม่า ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เสนอขอเป็นตัวกลางประสานงานกับกลุ่มติดอาวุธทุกกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ทั้งในรัฐชาน และทั่วพื้นที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ให้ทุกกลุ่มหันหน้ามาเจรจาร่วมสร้างความปรองดองให้เกิดความสงบขึ้นในประเทศ
แถลงการณ์ของคณะกรรมการบริหารสูงสุด สภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน มีเนื้อหาโดยละเอียดดังนี้
๑.เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง การทหาร ในสหภาพฯ และในรัฐชาน เกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนต้องอพยพลี้ภัยสงครามไปยังต่างประเทศเป็นจำนวนมาก สภาพเศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำ สินค้าผลผลิตต่างๆ ไม่มีตลาดรองรับ ประชาชนประกอบอาชีพหากินอย่างยากลำบาก และมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ต้องตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง
๒.เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาทางด้านการเมือง การทหารที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทางสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) ได้กำหนดนโยบายไว้ว่า จะใช้วิธีการพบปะเจรจาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
๓.ทางสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) มีความมุ่งหวังว่า เริ่มจากการเจรจาพูดคุยกันแล้ว จะนำไปสู่การหันหน้าเข้าหากัน เพื่อลดหย่อนหรือบรรเทาความบาดหมางเข้าใจผิดระหว่างกันที่เกิดขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อกันให้มีความแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งใช้วิธีทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น เพื่อผลประโยชน์และความสงบสุขของประชาชน และประเทศชาติ
๔.ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ทางสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) ขอยื่นมือเรียกร้อง และจะพยายามหาวิธีการในการพบปะเจรจากับกลุ่มติดอาวุธปฏิวัติกลุ่มต่างๆ ทั้งในรัฐชาน และสหภาพฯ
๕.สภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) เชื่อมั่นว่า เริ่มจากการพบปะเจรจาพูดคุยกันแล้ว จะนำไปสู่การเป็นพันธมิตร และเกิดความปรองดองสามัคคีกัน จนสามารถก่อสร้างสหพันธรัฐขึ้นมาได้ จึงได้ออกหนังสือแถลงการณ์เพื่อยื่นมือเรียกร้องให้มีการพบปะเจรจากันดังกล่าว
ขณะที่การเจรจาเพื่อสันติภาพมีความคืบหน้า ในวันเดียวกันกับการประกาศฯ กองทัพอาระกันได้บุกยึดฐานปฏิบัติการของกองทัพเมียนมา ตัังอยู่ในรัฐยะไข่
กองทัพอาระกัน (AA) ซึ่งเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อยของเมียนมา บุกยึดฐานปฏิบัติการ Lake Ya ของกองทัพเมียนมา ในเมืองหม่องดอ ทาง ตอ.น.ของรัฐยะไข่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนบังกลาเทศ พร้อมกับสังหารทหาร ๓๐ นาย และควบคุมตัวไว้ ๓ นาย พร้อมอาวุธ
นับเป็นฐานปฏิบัติการชายแดนฐานที่ ๒ ของกองทัพเมียนมาที่ AA บุกยึด หลังจากการสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายปะทุขึ้นที่เมืองหม่องดอเมื่อ ๑๘ ก.ค.๒๕๖๕ ก่อนขยายการสู้รบไปยังพื้นที่ใกล้เคียงคือ เมืองบูทิด่อง ราทิด่อง มินบยา มรัคอู ตองอก ในรัฐยะไข่ รวมถึงเมืองปาเลวะ รัฐชิน ซึ่งเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวที่สำคัญของ AA โดย AA อ้างว่า ระหว่างวันที่ ๑ – ๗ ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ปะทะกับกองทัพเมียนมาในเมืองราทิด่องและมินบยาแล้ว ๒๐ ครั้ง และสังหารทหารได้มากกว่า ๔๐ นาย