จากกรณีที่ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ได้แสดงความคิดเห็น ถึงปมเดือดกลางกรุงเคียฟ ที่รัสเซียได้ถล่มเอาคืนอย่างหนัก โดยระบุว่า และการขับเคลื่อนแผนต่อไปของรัสเซียจะเป็นเช่นไรต่อ งานต่อไปของรัสเซียคือใช้เครื่องบินรบถล่มต่อ?
แต่ผมวิเคราะห์จากนิสัยวลาดิเมียร์ ปูตินแล้ว นี่เป็นแค่เริ่มต้นเท่านั้น ยังจะมีตามมาอีกหลายระลอก เมื่อลงมือแล้วถ้าไม่ปิดจ็อบอย่างเบ็ดเสร็จ ปูตินจะไม่เลิกครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินรบที่เตรียมไว้จำนวนมาก ยังมิได้ใช้ ปูตินอาจส่งเครื่องบินรบถล่มค่ายทหารยูเครนอย่างหนักตามมา เมื่อฝ่ายตรงข้ามเสียหายหนักก็ส่งสัญญาณให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วหรือกองพลทหารม้าบุกเข้ายึดพื้นที่ต่อ
ตอนนี้ ค่ายทหารค่ายไหนของยูเครนโดนถล่ม รวมทั้งที่อยู่ใน ๔ แคว้น น่าจะระส่ำระส่าย เพราะกำลังหนุนจากรัฐบาลไม่มีให้แล้ว เนื่องจากศูนย์บัญชาการของเซเลนสกีในเคียฟก็ว่ากันว่าโดนถล่มด้วย เซเลนสกีต้องหนีไปที่อื่น เป้าหมายหลักของรัสเซียตอนนี้น่าจะไล่กลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งให้พ้นไปจากยูเครนและยึดยูเครนเลย
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้รายงานด้วยว่า การที่รัสเซียโจมตีเดือดครั้งนี้ จะทำให้สมรภูมิในเมืองลีมานน์ ชายแดนลูฮันสก์ ที่มีทหารยูเครน และทหารต่างชาติตะวันตกหลักหมื่นคนหนีออกจากเมืองไม่ทัน และติดอยู่ใน “วงล้อมหม้อต้ม” นักรบวาร์คเนอร์ นักรบเชเชน และทหารคอสเซคลูฮันสก์ ฝ่ายยูเครนติดต่อเจรจาขอยอมแพ้ ระบบสื่อสารบัญชาการจากยูเครนถูกตัดขาดจนเหมือนถูกปล่อยเกาะ NATO จะแก้เกมอย่างไร ?
โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้ว่า ให้จับตาสมรภูมิในเมืองลีมานน์ ชายแดนลูฮันสก์ ที่มีทหารยูเครน และทหารต่างชาติตะวันตกหลักหมื่นคน ที่หนีออกจากเมืองไม่ทัน และติดอยู่ใน “วงล้อมหม้อต้ม” นักรบวาร์คเนอร์ นักรบเชเชน และทหารคอสเซคลูฮันสก์
และกำลังติดต่อเจรจาขอยอมแพ้ เพราะระบบสื่อสารบัญชาการจากยูเครนถูกตัดขาดจนเหมือนถูกปล่อยเกาะ ถ้าตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่ายโดยไม่ต้องรบกันให้สูญเสีย จะพบการยอมแพ้มอบตัวจากฝ่ายยูเครนมากเป็นประวัติการณ์ แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ตามที่ผู้นำยูเครนสั่งห้ามก็คาดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะจะรุนแรงกว่าสมรภูมิเมืองท่ามาริอูโปล ชาติตะวันตกส่งอาวุธและยุยงยูเครน ยิ่งทำให้เสียหายถอยหลังลงทะเลจมไปเรื่อย ๆ เป็นปฏิปักษ์รัสเซียต่อไป บูมเบอแรงย้อนกลับจะรุนแรงกว่าหลายเท่าแน่นอน
ขอบคุณข้อมูล World Update