หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกมากล่าวยืนยันว่า เขาเป็นผู้สั่งการให้รัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตียูเครน โดยเป็นเป้าหมายทางทหาร พลังงาน และการสื่อสาร “หากยูเครนยังคงใช้ความพยายามทำการก่อการร้ายบนดินแดนของเรา รัสเซียก็จะทำการตอบโต้อย่างรุนแรง และในสัดส่วนเดียวกับระดับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ไม่ควรมีผู้ใดกังขาในเรื่องนี้”
ทั้งนี้ ปูตินไม่ได้กล่าวถึงการที่รัสเซียโจมตีเป้าหมายพลเรือนหลายจุดทั่วยูเครน จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ได้กล่าวถึงกรณีที่ยูเครนได้ทำการก่อการร้ายต่อรัสเซียด้วยการก่อเหตุระเบิดสะพานเคิร์ชในไครเมียเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นชนวนความโกรธแค้นที่รัสเซียต้องตอบโต้กลับ
ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพบนโลกออนไลน์ ที่กลางดึกในกรุงเคียฟ ต้องพบกับความมืดมน เพราะรัสเซียได้ยิงถล่มใกล้จุดสถานีไฟฟ้า พร้อมทั้งมีรายงานว่า การที่สถานีไฟฟ้าของยูเครนพังเสียหาย ส่งผลกระทบไปถึงชาติตะวันบางส่วนด้วย
มีรายงานระบุเพิ่มเติมว่า จากเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Sarawoot Manit ระบุข้อความดังนี้ เมื่อวานรัสเซียโจมตีไปที่สถานีไฟฟ้าย่อยขนาด 330 kV (330,000volt) เป็นหลัก ยังไม่ได้โจมตีไปที่ขนาด 750kV หรือสวิตช์เกียร์ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ยังไม่ได้โจมตี หลังจากกองทัพรัสเซีย ได้เปิดการโจมตีต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนครั้งใหญ่ แต่ผลที่ตามมาไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเครือข่ายไฟฟ้าทั้งหมดได้ หากรัสเซียต้องการปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุผลที่เห็นเป็นรูปธรรม จำเป็นต้องทำให้ระบบเครื่อข่ายไฟฟ้าเกิดผลกระทบทั้งหมดอย่างเป็นระบบ
จุดอ่อนในระบบไฟฟ้าของยูเครน คือสถานีย่อย ขนาด 750 kV โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศ เป็นองค์ประกอบที่จ่ายระบบไฟฟ้าที่เสถียรที่สุดในระบบพลังงานของประเทศยูเครน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังน้ำ Dnieper HPP ตั้งอยู่ในใจกลางของประเทศยูเครน การดำเนินงานของสถานีไฟฟ้าพลังน้ำของยูเครนนั้นขึ้นอยู่กับระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเป็นอย่างมาก และการทำลายเขื่อนตั้งแต่หนึ่งแห่งขึ้นไปสามารถลดปริมาณพลังงานที่สร้างขึ้นได้อย่างจริงจัง
ภาคตะวันออกของประเทศใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อน เนื่องจากการขาดแคลนถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนจึงไม่ถือว่าเป็นระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีความมั่นคง อาจมีเชื้อเพลิงไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้
สวิตช์เกียร์(สะพานไฟ)ขนาด 750kV (750,000 Volt) จะนำไปสู่ความไม่เสถียรของระบบพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของยูเครน แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และโรงไฟฟ้าพลังความร้อน จะถูกตัดออกและหยุดการทำงาน เป็นผลให้แม้แต่ทางตะวันตกของประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Rivne และ Khmelnytsky ก็อาจประสบปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในบางเมืองของยูเครน จนถึงขั้นไฟฟ้าดับไปทั่ว
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Sarawoot Manit