ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ทหารประจำการร่วมกับกองกำลังรัสเซียใกล้ชายแดนยูเครน โดยกล่าวหาเคียฟ และบรรดาผู้สนับสนุนตะวันตก กำลังวางแผนโจมตีประเทศของเขาเพื่อลากเบลารุสจมสู่สงครามตัวแทนยูเครน
ล่าสุดวอร์ซอแนะนำให้พลเมืองออกจากเบลารุสเนื่องจากความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมๆกับสื่อตะวันตกพากันรายงานว่า เบลารุสส่งทหารไปชายแดนร่วมกับกองกำลังรัสเซียอาจบุกยูเครน
วันที่ ๑๑ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และพราฟดา(pravda)ของยูเครนรายงานว่า ปธน.อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก (Alexander Lukashenko) แห่งเบลารุสให้สัมภาษณ์ว่า ตะวันตกกำลังผลักดันให้ยูเครนทำสงครามกับเบลารุส ทั้งยังตอกย้ำว่า เหตุการณ์ล่าสุดบนสะพานไครเมียบ่งชี้ว่าระดับการคุกคามของผู้ก่อการร้ายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ด้วยฝีมือของตะวันตก
ผู้นำเบลารุสกล่าวว่า “มันจะไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่ยูเครนจะเปิดแนวรบที่สองที่ชายแดนเบลารุส แต่ตะวันตกกำลังผลักดันให้ยูเครนเริ่มทำสงครามเช่นนี้”
สำนักข่าวเบลตาของเบลารุส (BelTA) อ้างคำพูดของลูกาเชนโกในที่ประชุมเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัย “ฉันได้กล่าวไปแล้วว่ายูเครนในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการพูดคุยหรือวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นการวางแผนโจมตีดินแดนเบลารุส แต่ด้านยูเครนอาจไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ เหตุใดพวกเขาจึงควรเปิดแนวรบที่สองบนพรมแดนทางใต้ของเรา ซึ่งอยู่ทางเหนือของพวกเขา?
“จากมุมมองของทหาร นี่เป็นเรื่องบ้า แต่กระบวนการได้เริ่มขึ้นแล้ว พวกเขาถูกผู้อุปถัมภ์ผลักดันให้ทำสงครามกับเบลารุสเพื่อลากเราเข้าไปข้างในและเพื่อจัดการกับรัสเซียและเบลารุสพร้อมกัน”
ลูกาเชนโกเล่าว่า เขาได้เตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ชายแดนตะวันตกในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน เขาสัญญาว่าเบลารุสจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามแทงหลังกองกำลังรัสเซีย
ลูกาเชนโกกล่าวว่า “ตอนนั้นฉันรู้ดีว่าทิศทางที่อันตรายที่สุดสำหรับเราคือทิศตะวันตก ถ้าเราปล่อยมันไว้โดยไม่มีการป้องกัน สงครามก็คงจะอยู่ใกล้เราในวันนี้ แต่เราต้องการให้กองกำลังติดอาวุธของเราอยู่ที่นั่น ยิ่งกว่านั้น เราเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังติดอาวุธของเราทางทิศตะวันตกด้วย”
เขาเน้นว่าเหตุการณ์ล่าสุดบนสะพานไครเมียบ่งชี้ว่าระดับการคุกคามของผู้ก่อการร้ายเพิ่มขึ้นอย่างมากลูกาเชนโกกล่าวเสริมว่า “ตอนนี้พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกคนแล้ว”
ลูกาเชนโกยืนยันว่าเบลารุสไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อสู้ในยูเครน เขากล่าวว่า”ฉันถูกถามคำถามนี้เป็นการส่วนตัวเมื่อวานนี้จากสื่อว่า กองทัพของคุณจะบุกยูเครนหรือไม่ ฉันบอกว่าเราจะไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะข้ามเส้นแดง เมื่อคุณข้ามพรมแดนของเราหรือกำหนดเป้าหมายมุ่งโจมตีโรงกลั่นน้ำมันโมเซียร์ (Mozyr) ถ้าพวกเขาบ้าไปแล้วที่คิดแบบนั้น เราจะตอบโต้กลับทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไมถ้าคุณปล่อยเราไว้ตามลำพังเราจะไม่ไปหาคุณ”
วิกเตอร์ เครนิน(Victor Khrenin) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเบลารุส ปฏิเสธการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในสงครามในยูเครน เขาแถลงการณ์ทางวิดีโอเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “เราไม่ต้องการต่อสู้กับชาวลิทัวเนีย หรือชาวโปแลนด์ หรือชาวยูเครน” เป็นการยืนยันท่าทีตามคำกล่าวของปธน. แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ท่าทีของเบลารุส กลับทำให้สื่อตะวันตก มองว่าสงครามในยูเครนอาจลุกลามขยายออกไปค่อนข้างแน่นอน โดยชี้ว่าทางเหนือของยูเครนมีเบลารุสซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซียมีความเคลื่อนไหวส่งกำลังทหารประชิดชายแดน
รอยเตอร์รายงานอ้าง ผู้นำเบลารุสกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าเขาได้สั่งให้กองทหารประจำการร่วมกับกองกำลังรัสเซียใกล้พรมแดนติดกับยูเครนเพื่อตอบโต้สิ่งที่เขากล่าวว่าเป็นภัยคุกคามต่อเบลารุส ที่เกิดจากเคียฟและผู้สนับสนุนทางตะวันตกอย่างชัดเจน
ลูกาเชนโกกล่าวว่ามีการส่งคำเตือนไปยังเบลารุสผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการว่ายูเครนวางแผนปฏิบัติการ “สะพานไครเมีย ๒” แต่เขาจะไม่ได้ให้รายละเอียด
ผู้นำเบลารุสย้ำว่า “คำตอบของฉันนั้นง่ายมาก: บอกประธานาธิบดีของยูเครนและคนบ้าคนอื่นๆ ว่าสะพานไครเมียจะดูเหมือนดอกไม้สำหรับพวกเขา หากพวกเขาสัมผัสพื้นที่ของเราแม้แต่เมตรเดียวด้วยมือที่สกปรก”
กองทัพของเบลารุสมีกำลังพลประจำการประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน เมื่อต้นปีนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เบลารุสได้ส่งกองพันยุทธวิธี ๖ กลุ่ม รวมหลายพันคน ไปยังพื้นที่ชายแดน เนื่องจากหัวหน้าหน่วยรักษาชายแดนของเบลารุสรายงานว่าทหารยูเครนก่อกวนที่ชายแดน กระทรวงกลาโหมเบลารุสระบุว่ามีขีดความสามารถในการส่งทหารฝึกหัด ๕๐๐,๐๐๐นายเข้าสู่พื้นที่“หากมีความจำเป็น”
เบลารุสมีพรมแดนติดกับยูเครนยาว ๑,๐๐๐ กม. ทางตอนใต้ และการโจมตียูเครนจากที่นั่นอาจทำให้รัสเซียสามารถเข้าถึงส่วนตะวันตกของยูเครน รวมถึงเมืองลวิฟได้สะดวก เป็นเหตุให้ตะวันตกระแวงมากถึงมากที่สุด!!
