ทำเอายูเครนระส่ำกันทั่วประเทศ เมื่อรัสเซียได้ตอบโต้กลับ ยิงถล่มเดือดกลางกรุงเคียฟ จนมีผู้บาดเจ็บและอาคาร สถานที่ราชการต่าง ๆ เสียหายหนัก โดยในเวลาต่อมายูเครนประกาศเสริมทัพหลังรัสเซียกลับมากระหน่ำโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในเมืองต่าง ๆ นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น ทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพไปยังที่พักพิง และทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 97 คน
ทางการยูเครนออกมาระบุว่า มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในกรุงเคียฟ เมืองลวิฟ เมืองเทอร์โนพิล และเมืองไซโตมีร์ ทางตะวันตกของยูเครน เมืองดนีปรอ และเมืองเครเมนชุกในภาคกลาง เมืองซาปอริซเซียในภาคใต้ และเมืองคาร์คีฟในภาคตะวันออก โดรัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธร่อนลายสิบลูกที่มีการทำการยิงทั้งจากอากาศ ทางบก และทางทะเล
ส่วนทางด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า เขาสั่งการให้ทำการโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลครั้งใหญ่ หลังกล่าวหายูเครนว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีสะพานเชื่อมรัสเซียกับไครเมีย แต่สหรัฐอเมริการะบุว่า หากดูจากขนาดของการโจมตีที่เกิดขึ้น รัสเซียน่าจะวางแผนมานานแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และโพสต์ข้อความบนเทเลแกรมหลังจากนั้นว่า การป้องกันภัยทางอากาศถือว่ามีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ในความร่วมมือด้านการป้องกันของเรา
“เราจะทำทุกอย่างเพื่อเสริมกำลังกองทัพของเราให้แข็งแกร่งขึ้น เราจะทำให้สนามรบสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นสำหรับศัตรู” เซเลนสกียังกล่าวอีกว่า การโจมตียูเครนเกิดขึ้นในชั่วโมงเร่งด่วนมีเป้าหมายเพื่อสังหารผู้คนและทำลายโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครน
ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล แจ้งว่า มีโครงสร้างพื้นฐานหลัก 11 จุดที่ถูกโจมตีใน 8 ภูมิภาค ทำให้พื้นที่บางส่วนของยูเครนไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา หรือเครื่องทำความร้อน พร้อมกับสัญญาว่าจะเร่งซ่อมแซมฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ไบเดนได้แจ้งกับเซเลนสกีว่า สหรัฐจะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศขั้นสูงให้กับยูเครน โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐเคยระบุไว้เมื่อปลายเดือนกันยายนว่า จะเริ่มส่งมอบระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศขั้นสูงให้กับยูเครนภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม เยอรมนี ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป ระบุว่า จะส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ IRIS-T SLM ชุดแรกจาก 4 ชุดให้กับยูเครนภายในไม่กี่วันข้างหน้า โดยคริสติน แลมแบรทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนครั้งใหม่แสดงให้เห็นว่า การจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครนอย่างรวดเร็วมีความสำคัญมากเพียงใด