หลังจากที่บรรดาฝูงชนหลายพันคนเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนย่านใจกลางกรุงปารีส เมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องรัฐบาลเปลี่ยนแปลงท่าทีแบบสุดขั้วต่อนาโต้และอียู การชุมนุมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนแล้วหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมา ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนแม้แต่น้อย
การเดินขบวนครั้งนี้มีแกนนำคือพรรค Les Patriotes พรรคการเมืองฝ่ายขวาที่นำโดย ฟลอริย็อง ฟิลิปโปต์ อดีตรองหัวหน้าพรรค National Rally ของมารีน เลอ แปน และมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน จากคำกล่าวอ้างของ ฟิลิปโปต์ ซึ่งเคยเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรประหว่าง 2014 ถึง 2019 อีกด้วย พวกผู้ประท้วงถือป้ายข้อความขนาดใหญ่เขียนว่า “ขัดขืน” และชูป้ายเล็ก ๆ เขียนว่า “เฟร็กซิต” อ้างถึงข้อเรียกร้องขอให้ฝรั่งเศสถอนตัวจากอียู นอกจากนี้ ยังพบเห็นผู้ชุมนุมจำนวนมากโบกธงชาติด้วยเช่นกัน
ขณะที่ฝรั่งเศส นอกจากจะมีกลุ่มผู้ประท้วงรายวันแล้ว ยังมีเหตุจลาจลไม่ปกติทั่วเมือง เมื่อวิกฤตน้ำมันในฝรั่งเศส ทำให้คิวต่อแถวของเมืองหลวงปารีสเพื่อรอเติมน้ำมันยาวเหยียดตลอดทั้งคืน เพราะมีรถยนต์จำนวนมาก รอต่อคิวเติมน้ำมันยาวตลอดข้างทาง ทั้งนี้โรงกลั่นน้ำมัน หยุดงานประท้วงเมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานการณ์ก๊าซในฝรั่งเศสตอนนี้ทำให้เกิดความโกลาหลกับการขาดแคลนครั้งใหญ่ในฝรั่งเศสตอนเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ และทั่วปารีส พบว่าปั๊มน้ำมัน 717 แห่ง (ราว 15%) น้ำมันหมดโดยสมบูรณ์ และอีก 523 แห่ง กำลังจะเจอสถานการณ์เดียวกันนั้น
ส่วนทางฝั่งอังกฤษ ก็เจอกับปัญหาหนักท่ามกลางสงครามที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ แต่ความโกลาหลได้เผชิญมาเต็มรูปแบบ ทั้งน้ำมันแพง ก๊าซแพง สินค้าอาหารแพง ล่าสุดมีรายงานว่าชาวอังกฤษแห่ตุนฟืน เพื่อให้ผ่านหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง
โดยในเฟซบุ๊ก The World Echo รายงานว่า บรรดายามเฝ้าโกดังต่างยืนยามขันแข็ง เพราะตอนนี้ชาวอังกฤษแอบบุกโกดังเข้าไปขโมยฟืน ซึ่งในวันนี้ราคาสูงลิ่วและมีค่าเหมือนทองคำ อย่าว่าแต่อังกฤษเลย ทั่วยุโรปนั่นแหละที่กังวลว่าอาจเกิดไฟดับเป็นวงกว้างและยาวนาน เพราะวิกฤติด้านพลังงาน ทั้งนี้สืบเนื่องจากท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีมรั่ว เชื่อกันว่าน่าจะเป็นการลอบก่อวินาศกรรม นี่คือสัญญาณว่าทั้งยุโรปหนาวแน่ และหนาวนานไปจนถึงปีหน้า
