หลังเกิดเหตุก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมของรัสเซียทั้งสองท่อ ในน่านน้ำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนาโต้ เยอรมันก็เกิดเหตุวินาศกรรมสายเคเบิลสื่อสารระบบรถไฟเยอรมันถูกตัดขาด ทำให้รถไฟเป็นอัมพาตหลายชั่วโมง ซ่อมกลับมาใช้ได้เป็นหย่อมๆยังไม่เต็มที่เหมือนเดิม แม้ตำรวจเยอรมนีแถลงว่ายังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่ารัฐต่างชาติอยู่เบื้องหลังกรณีสายเคเบิล แต่นักการเมืองทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านฟันธงแล้วว่าเป็นการก่อวินาศกรรม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังอดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมันนางอังเกลา แมร์เคิลเตือนว่ายุโรปจะต้องคืนดีกับรัสเซียสันติภาพจึงเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ความโกลาหล การชุมนุมประท้วงทั้งฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาล เรียกร้องให้กลับไปคืนดีรัสเซีย กับฝ่ายที่หนุนรัฐบาลใกล้เผชิญหน้ากันมากขึ้นเพราะฝ่ายขับไล่ประกาศจะจัดชุมนุมต่อเนื่องจนกว่ารัฐจะทำตามข้อเรียกร้อง
วันที่ ๑๐ ต.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวดอยช์เวลล์ (Deutsche Welle) และทาซซ์รายงานว่า สายเคเบิลสื่อสารของระบบรถไฟเยอรมนีถูกตัดขาดในกรุงเบอร์ลิน และเมืองเฮิร์น (Herne) ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งทำให้บริษัทดอยช์ บาห์น (Deutsche Bahn) ผู้ให้บริการระบบรถไฟเยอรมนีสั่งหยุดให้บริการรถไฟทั่วบริเวณตอนเหนือของเยอรมนีชั่วคราวเมื่อวันที่ ๙ ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสงสัยว่าเป็นการก่อวินาศกรรม ทั้งนี้ ตำรวจเยอรมนีอยู่ระหว่างสืบสวนกรณีและชี้แจงว่า ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการกระทำของรัฐต่างชาติหรือการก่อการร้ายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้โจมตีได้ตัดสายเคเบิลในสองแห่งโดยไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อเหตุ
แนนซี ฟาเซอร์ (Nancy Faeser)รัฐมนตรีมหาดไทยและชุมชน กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ตำรวจสหพันธรัฐกำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดยเสริมว่าแรงจูงใจยังไม่ชัดเจน
รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของเยอรมนีโวลเกอร์ วิสซิง (Volker Wissing) กล่าวในการแถลงข่าวว่า ตำรวจสหพันธรัฐกำลังสอบสวนอยู่
ก่อนหน้านี้ NATO และสหภาพยุโรปเคยเตือนสมาชิก ให้เน้นถึงความจำเป็นในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ หลังจากเกิด”การก่อวินาศกรรม” ท่อส่งก๊าซ Nord Stream
แหล่งข่าวกล่าวว่าการสอบสวนเหตุการณ์อย่างเข้มข้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และมีเหตุผลที่เป็นไปได้หลายประการ ตั้งแต่การขโมยสายเคเบิลอย่างง่าย ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในขณะนี้ ไปจนถึงการโจมตีแบบกำหนดเป้าหมาย
ด้านบริษัทดอยช์ บาห์น(Deutsche Bahn:DB) ผู้ดำเนินการรถไฟของรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า “เนื่องจากการก่อวินาศกรรมสายเคเบิลที่ขาด ทำให้ดำเนินการจราจรทางรถไฟทำไม่ได้ และต้องหยุดการเดินรถไฟในภาคเหนือเมื่อเช้านี้เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมง” ก่อนหน้านี้ DB ได้ระบุสาเหตุของการหยุดชะงักของเครือข่ายว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับการสื่อสารทางวิทยุ
การหยุดชะงักดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริการรถไฟผ่านรัฐโลเวอร์แซกโซนีและชลูซิก-โฮลชไตน์ รวมถึงรัฐในเมืองเบรเมินและฮัมบูร์ก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการเดินทางโดยรถไฟระหว่างประเทศไปยังเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ด้วย
โอมิด นูริปัว(Omid Nouripour) หัวหน้าพรรค Greens ซึ่งเป็นร่วมรัฐบาลกลางของนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ (Olaf Scholz) เขียนบน Twitterกล่าวว่า “ใครก็ตามที่โจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศจะได้รับการตอบสนองที่เด็ดขาด เราจะไม่ยอมถูกข่มขู่” “
ก่อนหน้าไม่กี่วัน อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยุโรปสามารถบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียมีส่วนร่วมเท่านั้น เหตุการณ์ในยูเครนเป็น “จุดเปลี่ยน” และเตือนว่าคำกล่าวของปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียจำเป็นต้องได้รับการพิจารณารับฟังอย่างจริงจัง แทนที่จะมองว่าเป็นการหลอกลวงตั้งแต่แรกเริ่ม”
ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและนาโต้ในกรุงเบอร์ลินได้ก่อตัวขึ้นอย่างกว้างขวาง คนเยอรมันนับหมื่นรวมตัวประท้วงรัฐอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้สนับสนุนพรรค AfD พรรคทางเลือกสำหรับเยอรมนี ที่ถูกระบุจากสื่อว่าเป็นฝ่ายขวาจัดหลายหมื่นคนเดินขบวนในวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่กรุงเบอร์ลินเพื่อประท้วงนโยบายพลังงานของรัฐบาล
ภายใต้คำขวัญ: “ความมั่นคงด้านพลังงานและการป้องกันเงินเฟ้อ – ประเทศของเราต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก” ผู้ประท้วงถือธงชาติเยอรมันและรัสเซีย รวมทั้งสัญลักษณ์ทางขวาสุดตามรายงานของเครือข่ายกระจายเสียง RBB ของกรุงเบอร์ลิน พวกเขายังจัดโปสเตอร์พร้อมสโลแกนที่ระบุว่า: “หยุดความบ้าคลั่งของรัฐบาล” เรียกร้องให้รัฐบาลผสมกลาง-ซ้าย ลาออก ซึ่งประกอบด้วยโซเชียลเดโมแครต กรีนส์ และพรรคเดโมแครตเสรี โดยระบุว่าพวกเขาเป็นทำตัวเป็น“ศัตรูของรัฐ”
ในขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงฝ่ายซ้ายซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายซ้ายหลายร้อยคนพากันไปที่ถนนในเขตรัฐบาลของเมืองเพื่อต่อต้านการประท้วงของกลุ่ม AfD มีรายงานการปะทะกันประปราย แต่ส่อเค้าจะปะทุมากขึ้น เพราะต่างประกาศจะจัดชุมนุมต่อเนื่่องไปจนกว่ารัฐบาลจะทำตามคำเรียกร้อง
